ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ไตร่ตรองขึ้น จนกระทั่งมั่นคงว่า อะไรที่ไม่ใช่เรา?! ไม่ใช่ว่าไม่ใช่เราเฉยๆ แต่อะไรที่ไม่ใช่เราต้องรู้!! เพื่อยืนยันมั่นคงว่า ... มันเป็นสิ่งนั้นไม่ใช่เรา
เราเป็นเราเป็นพี่น้องธรรมะมีความเห็นถูกต้อง และเห็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ได้มีความเข้าใจถูกในสังสารวัฏ กี่ชาติที่เราไม่รู้และก็จะไม่รู้ต่อไป ถ้าเราไม่ได้เห็นความลึกซึ้ง ... เราเผินมาก ... จะรู้จักพระพุทธเจ้าได้ต้องทีละคำ
สิ่งที่มีจริงๆ มีแน่นอน ทุกอย่างเป็นธรรมะทั้งหมดแต่ละหนึ่งๆ มีทุกเวลา ... ความลึกซึ้งคือไม่ใช่เพียงจำแล้วก็คิดว่ามีแน่ๆ แต่เราคืออะไร?!
ลองหาดูจริงๆ ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าอันไหนเป็นเรา? มีไหม? ... ไม่มี ... เพราะฉะนั้นเราไปเข้าใจว่าสิ่งที่มีแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรจึงเป็นเรา!!
พระพุทธเจ้าให้เราเข้าใจว่าความจริงเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีจริงแน่นอนเป็นธรรมะไม่ใช่เรา ทุกคำต้องตรงจริงๆ ถ้าเป็นธรรมะก็เป็นธรรมะตลอดไปเปลี่ยนไม่ได้เลย
ต้องมีความมั่นคงทีละคำ กว่าจะละที่เราเคยเห็นเป็นตัวเราทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนตาย ให้รู้จริงๆ ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าสิ่งที่มีอยู่ที่ตัวเราทั้งหมดไม่ใช่ของเราและไม่ใช่เราด้วย ธรรมะทั้งหมดเป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ใคร ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
ทุกคำของพระพุทธเจ้าจะไม่เปลี่ยนพระองค์ตรัสว่า ธรรมะสิ่งที่มีจริงทั้งปวงทุกอย่างไม่เหลือเลยเป็นอนัตตา
เชิญฟัง ณ กาลครั้งหนึ่งสนทนาธรรมที่บ้านซ.พัฒนเวศม์ 19/3/67 youtu.be/W0-Ed-T5fCE?si=-p7Q1CfxTzrbD_50
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้เกิดแล้ว และไม่มีใครไปทำให้เกิด นั่นคือความหมายของ "อนัตตา"
บารมี คือ คุณความดีทุกประการ ที่ค่อยๆ ละความไม่รู้ และความติดข้อง จนกว่าจะถึงจุดประสงค์คือ รู้แจ้งอริยสัจจธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ