จะศึกษาวิชาพุทธศาสตร์ หรือจะศึกษาธรรมมะ ให้เข้าใจ การศึกษาวิชาพุทธศาสตร์นั้น เพื่อที่จะรู้ว่าจิตมีกี่ดวง เจตสิกมีกี่ดวง รูปมีเท่าไหร่ อะไรบ้าง วิถีจิตคืออะไร ... วิถีจิตที่เกิดทางปัญจทวารมีจำนวนเท่าไร อะไรบ้าง ... ท่องได้ จำได้ แล้วไม่นานก็ลืม แล้วจะได้ประโยชน์อะไร ถ้ายังไม่เข้าใจว่าธรรม คืออะไร ทำไมต้องฟัง ต้องศึกษาว่าธรรมเป็นสิ่งมีจริง ธรรมเป็นอย่างนี้ ไม่มีใครเปลี่ยนธรรมได้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงของธรรมทั้งหลาย พระธรรมคำสอนถึงแม้เป็นบัญญัติ แต่ก็แสดงให้เข้าใจถึงความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ จึงต้องฟังเพื่อที่จะรู้ตามความเป็นธรรมะ
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กล่าวเสมอๆ ว่า การศึกษาธรรมะ เพื่อเข้าใจธรรมะ พูดถึงเรื่องจิตที่มีจริงๆ แล้วรู้จักจิตหรือยัง? ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟัง เพื่อสะสมความเข้าใจถูกความเห็นถูกโดยไม่ต้องหวังอะไรเลย เริ่มเข้าใจทีละเล็กทีละน้อย เพราะขณะนี้เป็นธรรมะอย่างนั้น เห็นมีจริงๆ ได้ยินมีจริงๆ สี เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะก็มีจริงๆ เป็นธาตุรู้ สิ่งที่ปรากฏกับเห็นไม่รู้อะไรเลย ค่อยๆ ที่จะเริ่มเข้าใจเห็น ค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ
ธรรมเกิดตามเหตุตามปัจจัย จงใจหรือต้องการที่จะรู้ก็เป็นเครื่องกั้น เริ่มฟังให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงให้ทั่ว ความเข้าใจนั้นเองเป็นปัจจัยให้สติระลึกรู้สิ่งที่กำลังปรากฏตามปกติสภาพธรรมเกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็วมาก ขณะนี้เข้าใจเห็นหรือยัง เข้าใจได้ยินหรือยัง (ยังคงไม่เข้าใจ) แต่ค่อยๆ เข้าใจขึ้นได้ เพราะความเข้าใจ สามารถจะรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏถูกต้องตามความเป็นจริง
ตราบใดที่ยังไม่เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก็ยังคงแสวงหาหนทางที่ผิด ถ้าใครยังจะไปทำอะไรให้เข้าใจธรรมะ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า ยังเป็นผู้ไม่เข้าใจธรรม
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ
ฟังธรรมเข้าใจ ยังไม่ใช่ขั้นปฏิบัติ ค่อยๆ เริ่มสะสมปัญญาจนกว่าปัญญาจะมีกำลังถึงขั้นสติปัฏฐานเกิดระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรมะที่มีจริง ที่กำลังปรากฏขณะนี้ค่ะ
สะสมความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อย บ่อยๆ เนืองๆ อย่างเป็นปกติ แล้วธรรมจะปฎิบัติธรรมเอง (เพราะธรรมแต่ละอย่างเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของตนแล้วก็ดับไปเท่านั้นเอง) ไม่ต้องไปแสวงหาทาง หรือทำอะไรให้ผิดปกติเลย การฟังธรรมไม่ใช่เพียงการเพลิดเพลินในเรื่องราวของธรรม แต่ควรที่จะพิจารณาว่าคำที่กล่าวนั้น ส่องถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ อย่างไร จึงจะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ได้ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ถ้าเข้าใจแล้ว จะเห็นว่าทุกขณะ ไม่จำกัด เวลา สถานที่ และโอกาส ธรรมะก็ปรากฏ แต่ไม่พิจารณา จะไปรอฟังแล้วจึงพิจารณา เห็น ที่ตายจากมนุษย์ อาจจะไปฟังต่อที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือ ที่เหมาะสม แล้วก็ฟังแล้วก็พิจารณา จุติจากสวรรค์ มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็มาเริ่มฟังและพิจารณา เห็น ที่อาจต้องใช้เวลาอีกหลายกัปป์ แท้จริง เมื่อเข้าใจว่าธรรมะ คืออะไร อะไรเป็นเหตุให้ระลึก นั่นแหละคือ การปฏิบัติที่สมควรแก่ธรรม. แม้ในขณะที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ อารมณ์อะไรปรากฏ และเป็นเหตุให้ระลึกนี่แหละ คือการปฏิบัติ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ