อริยสาวกในพระธรรมวินัยนี้ เลี้ยงตน เลี้ยงมารดาบิดา บุตร ภริยา บ่าวไพร่ คนอาศัย เพื่อนฝูง ให้เป็นสุขเอิบอิ่มสำราญดี ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรม ที่ได้มาโดยธรรม เป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์โดยทางที่ควรแล้ว
ขอนอบน้อมแด่คุณพ่อและคุณแม่ด้วยเศียรเกล้า
สิ่งที่ทำได้ก็เท่าที่ทำได้ แต่ให้เต็มความสามารถ เพราะทดแทนเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพียงแต่เริ่มได้ในขณะนี้ ในขณะที่เริ่มระลึกถึงพระคุณท่านครับ
ขอกราบ คุณพ่อ คุณแม่ครับ
คนที่คุณพ่อคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ คุณมีบุญ ที่มีโอกาสได้ดูแลพระอรหันต์ในบ้านค่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
ให้เจริญคุณธรรมชื่อว่าตอบแทนพระคุณทั้งสิ้น
ส่วนบุตรคนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทาน ตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา....ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้ สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา ยังมารดาบิดาผู้ทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่าอัน บุตรนั้นทำแล้วและทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดา.
พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 358
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ