เรื่องใจเป็นเรื่องใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ใจ
โดย nattawan  8 พ.ย. 2566
หัวข้อหมายเลข 46929

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่น ทุกคนก็ต้องหันมาศึกษาตัวเราให้เข้าใจ ว่ามีจริงๆ หรือเปล่า? ที่เรายึดมั่นถือมั่น ว่าเรา ว่าเขา คนนั้น คนนี้ ที่เรายึดอยู่นี่ ใครมาว่า หรือ ใครมาพูด เราไม่ชอบ เราก็โกรธ อะไรอย่างนี้ เป็นเราจริงๆ หรือเปล่า? ที่ต้องเป็นไปอย่างนั้น ตามอำนาจของกิเลส ที่จริงไม่มี เราจริงๆ ตามธรรมนี่ ไม่มี ที่มีนั้นเป็นเรื่องหลอกๆ สมมติบัญญัติ เราคิดไปเอง เราคิดไปเอง!!! ที่จริงแล้ว ไม่มี

ตา ก็เห็นแค่ "สี" หู ก็ได้ยินแค่ "เสียง" จมูก ก็ "ได้กลิ่น" ลิ้น ก็ "รู้รส" กาย ก็ "กระทบสัมผัส" เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เป็นปรมัตถธรรม ตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นปรมัตถธรรม เป็นธรรมที่มีอยู่จริง แต่ว่าหลังจากนั้น ตาเห็นแล้ว ใจคิด ไม่ใช่แค่เห็น หูได้ยิน ใจก็คิด จมูกได้กลิ่น ใจก็คิด ลิ้นรู้รส ใจก็คิด กายถูกต้องสัมผัส ใจก็คิด เรื่องใจเป็นเรื่องใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ใจ

อ่านเพิ่มเติม ...

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ศรีลังกาและอินเดีย ๑๖ - ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ [ตอนที่ ๓ มหินตาเล-อนุราธปุระ]



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

บุคคลที่เห็นว่า กิเลสดับยากเหลือเกิน ก็จะเป็นผู้ที่พากเพียรที่จะเจริญกุศลทุกประการ ทุกโอกาส พร้อมการเจริญสติปัฏฐานที่จะให้รู้สภาพธรรมนั้นตามความเป็นจริง แล้วก็จะมีความตั้งใจมั่นว่า มีกาย มีวาจา ไว้สำหรับทำอะไร? ไม่ควรที่จะมีไว้สำหรับเพื่อที่จะให้อกุศลเกิดมากขึ้น แต่ควรที่จะมีไว้สำหรับเจริญกุศล ทุกประการ

อ่านพิ่มเติม ...

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒๐


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

มีชีวิตตามปกติธรรมดา แต่อาศัยการฟัง เพื่อจะให้น้อมระลึกถึงสภาพธรรมะนั้นถูกต้องตามความเป็นจริง

อ่านเพิ่มเติม ...

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒๐


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

พระสัทธรรม คือ ธรรมที่จะนำไปสู่ความสงบจากกิเลส เพราะว่ามีกิเลสแล้วจะหมดกิเลสหรือสงบจากกิเลสได้อย่างไร ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีใครสามารถที่จะให้กิเลสที่มีอยู่หมดสิ้นไปได้เลย แต่เมื่อมีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงทั้งหมดที่จะนำไปสู่การดับกิเลส เป็นพระสัทธรรม

อ่านเพิ่มเติม ...

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒๐


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

โกรธง่ายหรือโกรธยาก? โกรธง่ายมากใช่ไหม? ทางตาเห็นนิดเดียวก็ไม่ถูกใจ โกรธแล้ว ทางหู พูดผิดหูไปนิดเดียว ก็โกรธแล้ว ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ เป็นผู้ที่โกรธง่าย ซึ่งความโกรธนั้นไม่เป็นภัยแก่คนอื่น นอกจากตัวท่านผู้โกรธเอง

อ่านเพิ่มเติม ...

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒๐


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

เรื่องของกิเลสไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ใครๆ คิดว่า นั่งสงบๆ หรือไม่รู้อะไรเลย ก็สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม แล้วก็ดับกิเลสได้ แต่เป็นเรื่องความละเอียด เป็นเรื่องของการอบรมเจริญปัญญา เป็นเรื่องของสติที่จะระลึกได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าสภาพธรรมนั้นจะเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลก็ตาม

อ่านเพิ่มเติม ...

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๒๐


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

พระธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะแสดงในส่วนใดของคำสอนก็ตาม ย่อมไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ โดยโวหาร โดยพยัญชนะต่างๆ ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริง อันเป็นธรรมที่ละเอียดยิ่ง ที่หาความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตน ไม่ได้เลย

อ่านเพิ่มเติม ...

หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา


ความคิดเห็น 7    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

กามทั้งหลาย คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ มีความยินดีน้อย แต่มี
การผูกพันด้วยสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์มากมาย

ฟังเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1899


ความคิดเห็น 8    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

ขันธ์ 5 คือนามธรรมและรูปธรรมทั้งภายในและภายนอกนั้นเป็นทุกข์ คงจะมีผู้สงสัยว่า ทำไมขันธ์ 5 จึงเป็นทุกข์ เรายึดถือจิตใจว่าเป็นตัวตน แต่ที่เรายึดถือว่าเป็นจิตใจของเรานั้นก็เป็นแต่เพียงนามธรรมที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปทันที เท่านั้นเอง เรายึดถือร่างกายว่าเป็นตัวตน แต่ที่เรายึดถือว่าเป็นร่างกายของเรานั้นก็เป็นแต่เพียงรูปธรรมที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เมื่อไม่รู้ความจริงก็คิดว่าสภาพธรรมเหล่านั้นยั่งยืนและยึดถือว่าเป็นตัวตน

The 5 khandhas, which are the mental phenomena and the physical phenomena in and around ourselves, are dukkha. One may wonder why they are dukkha. We take the mind for self, but what we call our mind are only mental elements or nama which arise and then fall away immediately. We take the body for self, but what we call our body are only physical elements or rupa which arise and fall away. When we do not know the truth we think that those phenomena can stay, we take them for self.

Mental development in daily life
by Nina Van Gorkom
ธรรมปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
แปลโดย อ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์


ความคิดเห็น 9    โดย nattawan  วันที่ 8 พ.ย. 2566

แนะนำหนังสือ ...

Sharing Dhamma


ความคิดเห็น 10    โดย chatchai.k  วันที่ 8 พ.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 11    โดย ทรงศักดิ์  วันที่ 11 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย nattawan  วันที่ 14 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ