ฉะนั้น รูปธรรมจึงไม่ใช่สภาพรู้ จึงไม่มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น เสียงที่ปรากฏไม่ใช่สภาพรู้ที่ต้องการให้ใครได้ยินหรือว่าไม่ต้องการให้ใครได้ยิน ไม่เลือกที่รักมักที่ชังว่าให้คนนี้ได้ยิน เสียงเป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นตามปัจจัยที่ทำให้เกิดเสียงนั้น และแล้วแต่ว่าโสตปสาทของใครจะกระทบกับเสียงใด บางคนนอนหลับสนิทไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังลั่นสนั่นน่ากลัว เสียงฟ้าร้องนั้นไม่ใช่แขกของบุคคลนั้น แต่เป็นแขกของคนที่สะสมเหตุที่ทำให้โสตปสาทกระทบกับเสียงนั้น
ฉะนั้น ขณะที่อารมณ์ใดเกิดขึ้นเป็นแขกของบุคคลใดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ย่อมเป็นไปตามเหตุ ปัจจัย คือ กรรมที่บุคคลนั้นสะสมมาเป็นปัจจัยให้วิบากจิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้นๆ
ฉะนั้น แขกที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย นั้นก็เป็นรูป เสียง กลิ่น รสโผฏฐัพพะ ซึ่งเกิดขึ้นชั่วขณะแล้วดับไปไม่กลับมาอีกเลย หาใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน วัตถุสิ่งใดไม่ และในวันหนึ่งๆ ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าแขกไหนจะมาทางใด และเมื่อไร
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ