[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 319
เราจะแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว.สุภัททปริพาชกทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสุภัททะ. อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ หาไม่ได้ในธรรมวินัยใด แม้สมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้นสุภัททะ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ หาได้ในธรรมวินัยใด แม้สมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ หาได้ในธรรมวินัยนั้น สุภัททะ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ หาได้ในธรรมวินัยนี้ สมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ก็มีอยู่ในธรรมวินัยนี้ ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะผู้รู้ สุภัททะ ก็ภิกษุเหล่านี้ พึงอยู่โดยชอบโลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย.
[๑๓๙] ดูก่อนสุภัททะเรามีวัย ๒๙ ปีบวชแล้ว แสวงหาว่าอะไรเป็นกุศล ตั้งแต่เราบวชแล้ว นับได้ ๕๑ ปี แม้สมณะเป็นไปในประเทศแห่ง ธรรมเป็นเครื่องนำออก ไม่มีในภายนอก แต่ ธรรมวินัยนี้ สมณะที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ไม่มี ลัทธิอื่นว่างจากสมณะผู้รู้
บทว่า ญายสฺส ธมฺมสฺส ได้แก่ ธรรมคืออริยมรรค.
บทว่า ปเทสวตฺติ เป็นไปในประเทศ คือ แม้ในทางแห่งวิปัสสนา.บทว่า อิโต พหิทฺธา ภายนอกศาสนาของเรา
บทว่า สมโณปิ นตฺถิ แม้สมณะผู้บำเพ็ญวิปัสสนา ผู้อยู่ในทางแห่งวิปัสสนาไม่มี ท่านอธิบายว่า สมณะที่ ๑ แม้ที่เป็นโสดาบันไม่มี
ขออนุโมทนาค่ะ ขอบพระคุณ
ขออนุโมทนาครับ