พระภิกษุที่เลี้ยงมารดา ผิดวินัยหรือไม่ เช่น เฝ้าไข้ เช็ดตัว นำบิณฑบาตมาเลี้ยงดู เป็นต้น
พระภิกษุที่เลี้ยงมารดา ไม่ผิดวินัย พระพุทธองค์ทรงอนุญาต ให้นำบิณฑบาตมาเลี้ยงดูท่านได้ แต่กิจบางอย่างอาจขัดกับพระวินัย เช่น การเช็ดตัวมารดาซึ่งเป็นเพศสตรี ไม่ควร คือ มีพระวินัยบัญญัติว่า พระภิกษุจะถูกต้องกายหญิงไม่ได้ แม้เป็นกายของมารดาก็ไม่ได้ เป็นอาบัติเช่นกัน แต่เป็นอาบัติเบา ดังนั้น ถ้าประสงค์จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ ควรทำความเคารพในพระวินัย ไม่ก้าวล่วงพระบัญญัติจึงจะเป็นผู้เจริญในพระธรรมวินัยนี้ได้ขอเชิญอ่านข้อความในพระสูตรเรื่องพระภิกษุเลี้ยงมารดา
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
อรรถกถา สุวรรณสามชาดก_๑ [ชาดก]
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
อรรถกถาสุวรรณสามชาดก_๒ [ชาดก]
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...อรรถกถาสุวรรณสามชาดก_๓ [ชาดก]
พระสูตรนี้ยิ่งอ่านยิ่งซาบซึ้ง
ความกตัญญูต่อบุพการี เป็นเรื่องที่กุลบุตรทั้งหลายพึงประพฤติ
ขออนุโมทนา
เห็นด้วยกับคุณ happyindyค่ะ ไพเราะและซาบซึ้งจริงๆ
มาตาปิตุอุปฎฐานํ บำรุงมารดาบิดาเป็นมงคล
มงคล หมายถึง ธรรมที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ผู้ที่อยู่ในเพศบรรพชิตเป็นผู้ตรงที่จะขัดเกลาความประพฤติทาง กาย วาจา ใจ โดยมีความเคารพนอบน้อมสูงสุดในธรรมวินัยที่ทรงประกาศไว้ดีแล้ว แม้อาบัติเล็กน้อย เช่น การสัมผัสกายของผู้เป็นมารดา ก็เห็นโทษว่าไม่ใช่สิ่งที่ภิกษุควรกระทำ เมื่อบวชแล้วต้องมีความกตัญญูกตเวทีต่อพระรัตนตรัยจริงๆ ส่วนการดูแลเลี้ยงบิดามารดาก็สามารถกระทำได้ตามความเหมาะสม ไม่เกินวิสัยในเพศของตน นอกจากจะไม่ต้องอาบัติ หรือว่าถูกฆราวาส ภิกษุด้วยกันติเตียนแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงสรรเสริญในกุศลกรรมนั้นครับ...อนุโมทนาครับ
ผู้ที่กตัญญต่อมารดา บิดา ย่อมมีแต่ความเจริญค่ะ และความกตัญญเป็นเครื่องหมายของคนดีค่ะ
สาธุ
และขอเสนอตอนจบครับ (ต่อจากความเห็นที่ 4)
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าการเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นวงศ์ของบัณฑิตทั้งหลาย ตรัสฉะนี้แล้วทรงประกาศอริยสัจสี่ ประชุมชาดกในเวลาเทศนาอริยสัจสี่จบลง ภิกษุนั้นบรรลุโสดาปัตติผล
เคยอ่านทศชาติชาดกเรื่องสุวรรณสาม กี่ครั้งกี่ครั้งก็ยังร้องไห้ ตื้นตันใจในความกตัญญูของสุวรรณสาม แล้วมาอ่านในเรื่องนี้ที่เกิดในพุทธกาลของภิกษุในรูปนี้ก็ยังตื้นตันใจมาก
ขออนุโมทนาค่ะ