ในสภาวะบ้านเมืองในปัจจุบันมีความขัดแย้ง พวกเราเป็นสาวกของพระอรหันต์
สัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราควรจะทำตัวอย่างไร และทั้ง 2 ฝ่าย ที่เกิดความขัดแย้งเป็น
โทสะ โลภะ โมหะ ทั้งนั้นใช่มั้ยครับ
ผู้ที่ศึกษาพระธรรมคำสอนย่อมทราบตามหลักธรรมว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง
สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ชีวิตเป็นของน้อยไม่ควร
ประมาท ควรเจริญกุศลทุกประการ ควรเจริญเมตตาไปยังสัตว์ทุกหมู่เหล่า ไม่ว่า
เหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่ประมาทในการเจริญกุศลและศึกษาพระ
ธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านไม่ขัดแย้งกับใครๆ
เป็นผู้สงบกาย วาจา และใจ ส่วนปุถุชนผู้ที่หนาด้วยกิเลสย่อมมีการทะเลาะขัดแย้งกัน
อนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาครับ จะปฏิบัติจะระลึกและมองดูอย่างเป็นธรรมะ
ควรรู้จักเสพคุ้นกับสิ่งที่ควรเสพคุ้น ถ้าเราฟังเรื่องการเมืองมาก ด้วยปัญญาที่น้อย
ย่อมทำให้เกิดอกุศล คือ โทสะมาก ดังนั้นควรเสพคุ้นในสิ่งที่ดีมากกว่าคือฟังพระธรรม
ครับซึ่งเรื่องที่เป็นสัปปายะก็เป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่เรื่องที่ไม่เป็นสัปปายะ ก็
เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดโทสะ หรือพยาบาทขึ้นได้ครับ เช่นเรื่องความขัดแย้งในปัจจุบัน
ควรเลือกเสพคุ้นสิ่งที่ดีนะครับ
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 745
ข้อความบางตอนจาก สติปัฏฐานสูตร
ละพยาบาทด้วยธรรม ๖ ประการ
อีกอย่างหนึ่ง ธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อละพยาบาท คือ การเรียนเมตตานิมิต ๑ การบำเพ็ญเมตตาภาวนา ๑ การพิจารณาว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน ๑ ความเป็นผู้มากด้วยการพิจารณา ๑ ความเป็นผู้มีกัลยาณมิตร ๑ การสนทนาถึงเรื่องที่เป็นสัปปายะ ๑.
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เราควรทำตัวอย่างไร ...
๑. ปฏิบัติหน้าที่ของความเป็นพลเมืองที่ดี เช่น ไม่สนับสนุนการประพฤติทุจริต
คอร์รัปชั่น เสียภาษี ไม่ทำผิดกฎหมาย เป็นต้น
๒. ปฏิบัติหน้าที่ของความเป็นพุทธบริษัทที่ดี เช่น มีความจริงใจในการศึกษาพระธรรมเกื้อกูลพุทธบริษัทเหล่าอื่น ทั้งวัตถุและธรรม เป็นต้น
เมื่อมีความเข้าใจในพระธรรมเพิ่มขึ้น ก็จะรู้ว่าไม่มีเรา เขา หรือใคร มีเพียงแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย กระทำกิจตามสมควรแก่สภาพธรรมนั้นๆ เป็นการสั่งสมของกรรม กิเลส เพื่อให้ผลเป็นวิบากต่อไปในอนาคต
ทุกสิ่งเป็นธรรมะ ดังนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องวางตัวอย่างไร เพื่ออะไร เพียงแค่นอบ
น้อมต่อพระรัตนตรัยก็เพียงพอแล้ว
ทุกสิ่งเป็นธรรมะ จึงต้องปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ถ้ากล่าวว่า "ทุกสิ่งเป็นธรรมะ ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องวางตัวอย่างไร เพื่ออะไร "
แสดงว่ายังขาดความเข้าใจในธรรม ปัญญาต้องมีการอบรมให้เจริญ ไม่ใช่จะเกิดขึ้นเองได้โดยไม่มีเหตุ
ขอทราบความเห็นถูกว่า จะต้องวางตัวอย่างไรจึงเรียกได้ว่า เข้าใจธรรมะ จะ
ต้องอบรมเจริญปัญญาอย่างไร ถึงเรียกได้ว่ามีความเข้าใจธรรมะ ต่อสถานการณ์
ความเห็นที่ขัดแย้งทางด้านการเมือง ขอขอบพระคุณล่วงหน้าต่อคำชี้แจง
การขัดแย้งกันมีทุกยุคทุกสมัย อบรมปัญญาด้วยการฟังธรรม จนกว่าจะเข้าถึงความจริงคือ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะ ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนค่ะ
เชิญคลิกอ่านได้ที่....................
ผู้มีความเห็นอันวิปริตย่อมไม่ล่วงพ้นสงสาร [ตติถสูตร]
ต้องมั่นคงมากๆ ในเรื่อง กรรม และ ผลของกรรม ทุกอย่างเป็นธรรมะ เป็นอนิจจัง
ทุกขัง อนัตตา เกิดดับตามเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ เป็นเรื่องความคิดเห็น
ซึ่งก็เกิดจากเหตุปัจจัยจริงๆ