กถาวัตถุ ๑๐ [มหาสุญญตสูตร]
โดย พุทธรักษา  12 ต.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 13930

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 23] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒ หน้าที่ 22-25

ข้อความบางตอน...

มหาสุญญตสูตร

ว่าด้วยกถาวัตถุ ๑๐

[๓๕๑] พ. ดูก่อนอานนท์สาวก ไม่ควรจะติดตามศาสดา เพียงเพื่อฟังสุตตะ เคยยะ และ ไวยากรณ์ เลยนั้น เพราะเหตุไร เพราะธรรมทั้งหลาย อันพวกเธอสดับแล้ว ทรงจำแล้ว คล่องปากแล้ว เพ่งตามด้วยใจแล้ว แทงตลอดดีแล้ว ด้วยความเห็น เป็นเวลานาน

ดูก่อนอานนท์ แต่สาวก ควรจะใกล้ชิดติดตามศาสดา เพื่อฟังเรื่องราวเห็นปานฉะนี้ ซึ่ง เป็นเรื่องขัดเกลากิเลสอย่างยิ่งเป็นที่สบายแก่การพิจารณาทางใจ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ส่วนเดียวเพื่อความคลายกำหนัด เพื่อดับกิเลส เพื่อสงบกิเลส เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน คือ เรื่องมักน้อย เรื่องยินดีของของตน เรื่องความสงัด เรื่องไม่คลุกคลี เรื่องปรารภความเพียร เรื่องศีล เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา เรื่องวิมุตติ เรื่องวิมุตติญาณทัสสนะ.ดูก่อนอานนท์ เมื่อเป็นเช่นนั้น จะมีอุปัทวะของอาจารย์ อุปัทวะของศิษย์ อุปัทวะของผู้ประพฤติพรหมจรรย์.

[๓๕๒] ดูก่อนอานนท์ ก็อุปัทวะของอาจารย์ ย่อมมีได้อย่างไร.?
ดูก่อนอานนท์ ศาสดาบางท่านในโลกนี้ ย่อมพอใจเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำบนภูเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และ ลอมฟาง.
เมื่อศาสดานั้น หลีกออกแล้วอย่างนั้นอยู่พวกพราหมณ์ และคฤหบดี ชาวนิคม และชาวชนบท จะพากันเข้าไปหา เมื่อพวกพราหมณ์ และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท พากัน เข้าไปหาแล้ว ศาสดานั้น จะปรารถนาอย่างหมกมุ่น จะถึงความวุ่นวายจะเวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก.

ดูก่อนอานนท์ ศาสดานี้ เรียกว่า อาจารย์มีอุปัทวะ ด้วยอุปัทวะของอาจารย์ อกุศลธรรม อันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุเกิดในภพใหม่มีความกระวนกระวาย มีทุกข์เป็นวิบาก เป็นที่ตั้งแห่งชาติ ชรา มรณะต่อไป ได้ฆ่าศาสดานั้นเสียแล้ว.
ดูก่อนอานนท์อย่างนี้แล อุปัทวะของอาจารย์ย่อมมีได้.

[๓๕๓] ดูก่อนอานนท์ ก็อุปัทวะของศิษย์ ย่อมมีได้อย่างไร.?
ดูก่อนอานนท์ สาวกของศาสดานั้นแล เมื่อเพิ่มพูนวิเวกตามศาสดานั้น ย่อมพอใจเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำบนภูเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และลอมฟาง เมื่อสาวกนั้น หลีกออกแล้วอย่างนั้นอยู่พวกพราหมณ์ และคฤหบดี ชาวนิคม และชาวชนบท จะพากันเข้าไปหา เมื่อพวกพราหมณ์ และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท พากันเข้าไปหาแล้วสาวกนั้น จะปรารถนาอย่างหมกมุ่น จะถึงความวุ่นวาย จะเวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก.

ดูก่อนอานนท์ สาวกนี้ เรียกว่าศิษย์มีอุปัทวะ ด้วยอุปัทวะของศิษย์ อกุศลธรรมอันลามก เศร้าหมอง เป็นเหตุเกิดในภพใหม่ มีความกระวนกระวาย มีทุกข์เป็นวิบาก เป็นที่ตั้งแห่งชาติ ชรามรณะต่อไป ได้ฆ่าสาวกนั้นเสียแล้ว. ดูก่อนอานนท์อย่างนี้แล อุปัทวะของศิษย์ย่อมมีได้.

[๓๕๘] ดูก่อนอานนท์ก็อุปัทวะของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ย่อมมีได้อย่างไร.?
ดูก่อนอานนท์ ตถาคต อุบัติในโลกนี้ ได้เป็นผู้ไกลจากกิเลสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชา และจรณะ. ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลกเป็นสารถี ผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึก อย่างหาคนอื่นยิ่งกว่ามิได้เป็นครูของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้แจกธรรม ตถาคตนั้น ย่อมพอใจเสนาสนะอันสงัดคือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำบนภูเขา ป่าช้า ป่าชัฏที่แจ้ง และ ล้อมฟางเมื่อตถาคตนั้น หลีกออกแล้วอย่างนั้นอยู่พวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท จะพากันเขาไปหา เมื่อพวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท พากันเข้าไปหาแล้วตถาคตนั้น ย่อมไม่ปรารถนาอย่างหมกมุ่น ไม่ถึงความวุ่นวาย ไม่เวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก.

ดูก่อนอานนท์ ส่วนสาวกของตถาคตผู้ศาสดานั้นแล เมื่อเพิ่มพูนวิเวก ตามคถาคตผู้ศาสดา ย่อมพอใจเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำบนภูเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง และลอมฟางเมื่อสาวกนั้นหลีกออกแล้วอย่างนั้นอยู่ พวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท จะพากันเข้าไปหา เมื่อพวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท พากันเข้าไปหาแล้วสาวกนั้น ย่อมปรารถนาอย่างหมกมุ่น ถึงความวุ่นวาย เวียนมาเพื่อความเป็นผู้มักมาก.

ดูก่อนอานนท์สาวกนี้ เรียกว่าผู้ประพฤติพรหมจรรย์มีอุปัทวะ ด้วยอุปัทวะของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ อกุศลธรรม อันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุเกิดในภพใหม่ มีความกระวนกระวาย มีทุกข์เป็นวิบากเป็นที่ตั้งแห่งชาติ ชรามรณะต่อไป ได้ฆ่าสาวกนั้นเสียแล้ว.
ดูก่อนอานนท์อย่างนี้แล อุปัทวะของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ย่อมมีได้.
ดูก่อนอานนท์ ในอุปัทวะทั้ง ๓ นั้นอุปัทวะของผู้ประพฤติพรหมจรรย์นี้มีวิบากเป็นทุกข์ มีวิบากเผ็ดร้อนกว่าอุปัทวะของอาจารย์ และอุปัทวะของศิษย์ทั้งเป็นไปเพื่อความตกต่ำด้วย.

ดูก่อนอานนท์ เพราะฉะนั้นแล พวกเธอจงเรียกร้องเราด้วยความเป็นมิตร อย่าเรียกร้องเรา ด้วยความเป็นข้าศึก ข้อนั้น จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเพื่อความสุขแก่พวกเธอตลอดกาลนาน.

[๓๕๕] ดูก่อนอานนท์ ก็เหล่าสาวก ย่อมเรียกร้องศาสดา ด้วยความเป็นข้าศึก ไม่ใช่เรียกร้องด้วยความเป็นมิตรอย่างไร ดูก่อนอานนท์ศาสดาในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้อนุเคราะห์ แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดู แสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลายว่า นี่เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พวกเธอนี้เพื่อความสุขแก่พวกเธอ ...
เหล่าสาวกของศาสดานั้นไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยโสตสดับ ไม่ตั้งจิตรับรู้ และประพฤติหลีกเลี่ยงคำสอนของศาสดาดูก่อนอานนท์ อย่างนี้แล เหล่าสาวก ชื่อว่าเรียกร้องศาสดา ด้วยความเป็นข้าศึก ไม่ใช่เรียกร้อง ด้วยความเป็นมิตร.

(ว่าด้วยมิตรปฏิบัติ)

[๓๕๖] ดูก่อนอานนท์ก็เหล่าสาวก ย่อมเรียกร้องศาสดา ด้วยความเป็นมิตร ไม่ใช่เรียกร้อง ด้วยความเป็นข้าศึก อย่างไร.?
ดูก่อนอานนท์ ศาสดาในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้อนุเคราะห์ แสวงหาประโยชน์เกื้อกูลอาศัยความเอ็นดู แสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลายว่านี้เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พวกเธอ นี้เพื่อความสุขแก่พวกเธอ ...

เหล่าสาวกของศาสดานั้น ย่อมฟังด้วยดี เงี่ยโสตสดับ ตั้งจิตรับรู้และไม่ประพฤติหลีกเลียงคำสอนของศาสดาดูก่อนอานนท์ อย่างนี้แลเหล่าสาวก ชื่อว่าเรียกร้องศาสดาด้วยความเป็นมิตร ไม่ใช่เรียกร้องด้วยความเป็นข้าศึก.
ดูก่อนอานนท์เพราะฉะนั้นแล พวกเธอจงเรียกร้องเรา ด้วยความเป็นมิตร อย่าเรียกร้องเรา ด้วยความเป็นข้าศึก ข้อนั้น จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลเพื่อความสุขแก่พวกเธอตลอดกาลนาน.

ดูก่อนอานนท์เราจักไม่ประคับประคองพวกเธอ เหมือนช่างหม้อ ประคับประคองภาชนะดินดิบที่ยังดิบๆ อยู่ เราจักข่มแล้วๆ จึงบอก จักยกย่องแล้วๆ จึงบอก ผู้ใด มีแก่นสารผืนนี้ จักตั้งอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว ท่านพระอานนท์จึงชื่นชมยินดีพระภาษิต ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล

จบ มหาสูญญตสูตรที่ ๒

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และ สรรพสัตว์



ความคิดเห็น 1    โดย ups  วันที่ 12 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย Sam  วันที่ 14 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย suwit02  วันที่ 16 ต.ค. 2552

สาธุ


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ธ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 1 ธ.ค. 2563

ขอเชิญอ่านความเห็นเพิ่มเติม...

มหาสุญญตสูตร (ข้อความบางตอน)