ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จะเห็นได้ว่า ที่ใช้คำว่า "เสพ"เพื่อให้เข้าใจจริงๆ ถึงสภาพของจิตที่เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิตที่กระทำชวนกิจ ในเวลาที่มีอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเป็นจิตที่ "อิ่มไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ" หรือเป็นจิต "ที่อิ่มไปด้วยกุศลจิต" เพราะเหตุว่า ชวนวิถีจิต "กระทำกิจแล่นไปในอารมณ์"
ไม่ใช่เพียงเห็นรูปารมณ์ คือ จักขุวิญญาณจิต ไม่ใช่เพียงรับอารมณ์ คือสัมปฏิจฉนจิตไม่ใช่เพียงพิจารณาอารมณ์ คือสันตีรณจิตไม่ใช่เพียงตัดสินอารมณ์ คือโวฏฐัพพนจิต เมื่อกิจเหล่านี้ได้กระทำหมดแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้กุศลจิตหรืออกุศลจิตเกิดขึ้นเสพอารมณ์นั้นๆ ตรงชวนวิถีจิต ชวนวิถีจิตจึงเป็นจิตที่อิ่มจริงๆ เพราะเกิดขึ้นเสพอารมณ์นั้นๆ ทั้งกุศลจิตหรืออกุศลจิตถึง ๗ ครั้งซึ่งแล้วแต่ปัจจัยว่าจะเป็นการเสพอุศลจิตหรือ กุศลจิต
ทางตา ต้องดูนานๆ ไหมคะ ถึงจะอิ่ม ทางหู ถ้าเป็นโมฆวาระก็ไม่ได้ยินเสียง คือเสียงมากระทบก็จริง แต่ไม่ได้ยินหรือถ้าเป็นโวฏฐัพพนวาระกุศลหรืออกุศลก็ไม่เกิดในวาระนี้ อิ่มไหม แต่พอถึงชวนวาระ ชวนจิตทำกิจ เสพอารมณ์นั้นๆ ซึ่งแล้วแต่ว่าจะเป็นอกุศลจิตหรือกุศลจิต.ชวนวิถีจิตเป็นขณะที่จิตประเภทเดียวกัน เกิดดับสืบต่อกันถึง ๗ ครั้ง ชวนวิถีจิตเป็นขณะจิตที่มีกำลัง ที่จะทำให้วิบากซึ่งเป็นผลเกิดขึ้นในอนาคตจากการเสพอารมณ์นั้นๆ ถึง ๗ ครั้ง ถ้าเป็นกุศลจิตก็ให้ผลเป็นกุศลวิบาก ถ้าเป็นอกุศลก็ให้ผลเป็นอกุศลวิบาก ว่าโดยปัจจัย ชวนวิถีจิต สั่งสมสันดานของตนโดยสามารถของชวนจิต เพราะมีอาเสวนปัจจัยที่กระทำกิจให้ชวนวิถีจิต เสพอารมณ์นั้น ซ้ำๆ กันถึง ๗ ครั้ง
แนวทางเจริญวิปัสสนาโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทปโดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
ขออนุโมทนา
ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม ...
วาระจิต วิถีจิตทางปัญจทวาร และทางมโนทวาร
เป็นจิตที่ "อิ่มไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ" หรือ เป็นจิต "ที่อิ่มไปด้วยกุศลจิต"
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ