ธรรมกับความจริงของชีวิต
โดย nattawan  6 ต.ค. 2567
หัวข้อหมายเลข 48641

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คนทั่วไปปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดี การมีชีวิตที่ดีคือมีความสุข สมปรารถนา ได้สิ่งที่ต้องการ แต่พอฟังธรรมะแล้วเข้าใจว่า ชีวิตที่ปรารถนาไม่ใช่เช่นนั้นแต่ความจริงของชีวิตคือเกิด แก่ เจ็บตาย ธรรมะจริงๆ ของพระพุทธเจ้าลึกซึ้งมาก และความจริงของชีวิตคือธรรมะ

ความเข้าใจไม่ใช่เรื่องง่าย ฟังธรรมะบ่อยๆ ทำให้รู้ว่า จริงๆ แล้วเกิดมาเพื่ออะไร ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ได้ศึกษาธรรมะ และได้พิจารณาไตร่ตรองตามที่ได้ฟัง

เริ่มรู้ธรรมะที่ถูกต้องตามความเป็นจริง แล้วเข้าใจคำของพระสัมมาสัมพระเจ้าที่ตรัสถึงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ว่าคืออะไร เริ่มไตร่ตรองแต่ละคำของผู้ที่ตรัสรู้ความจริง คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ธรรมะกับชีวิตจริงในชีวิตประจำวัน ไตร่ตรองหรือเปล่า จะพูดเรื่องธรรมะกับชีวิตจริงในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ศึกษาก็คิดเยอะเลย แต่ละคนเวลานี้ต้องไตร่ตรองและเข้าใจจริงๆ ว่า ธรรมะเป็นอย่างเดียวกับชีวิตประจำวัน ไม่ต่างกันเลยเพราะ ความจริงของชีวิตเป็นธรรมะ

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมะ ฟังแต่ละคำและเข้าใจแต่ละคำ เข้าใจว่าไม่มีใคร ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่มีเราไม่มีอะไรเลย เป็นธรรมะ เกิดและดับเร็วมาก

ฟังเพื่อเข้าใจถูกไม่ใช่เพื่อเหตุอื่นเลย แต่ละคำที่ฟังต้องไตร่ตรอง ธรรมะสิ่งที่มีจริงไม่ใช่อย่างที่ปรากฏ แต่ละคำๆ ค่อยๆ เข้าใจคำที่ไม่เคยคิดมาก่อน แต่เป็นคำที่ถ้าไม่ตรัสรู้ ไม่สามารถที่จะกล่าวคำนั้นได้เลย เพราะฉะนั้นคำนั้นต้องเป็นความจริงถึงที่สุดที่สามารถเริ่มเข้าใจได้

พระพุทธเจ้าต้องทรงบำเพ็ญพระบารมีมานานเท่าไหร่ จึงจะตรัสความจริงของสิ่งที่มีจริงได้ เพราะฉะนั้นเคารพพระองค์สูงสุด รู้จักพระพุทธเจ้าตามความเข้าใจของตนๆ

ถ้ามีคนบอกว่าเกิดแล้วก็ต้องตาย ... รู้จักพระพุทธเจ้าไหม? ถ้าไม่ได้พูดให้รู้ความจริงของสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่พระพุทธเจ้า

พระองค์ตรัสทุกสิ่งที่มีจริงให้เข้าใจความจริงของสิ่งนั้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่จะรู้จักพระองค์ด้วยการฟังคำของพระองค์และไตร่ตรอง เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อะไร? ทรงตรัสรู้ความจริงเดี๋ยวนี้คือเสียง ถ้าเสียงไม่เกิด ... ไม่ได้ยิน เสียงเกิดและดับ เสียงเป็นธรรมะ ใครจะคิดว่านี่คือธรรมะ สิ่งที่มีจริงหกทาง ชั่วขณะที่มีจริง เกิดและดับไปไม่กลับมาอีกเลย

ได้ฟังยิ่งได้เห็นประโยชน์ว่าความเข้าใจที่จะค่อยๆ เกิดขึ้นจะต้องได้ฟังคำที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ยิ่งฟังยิ่งเห็นประโยชน์ที่ได้ฟังแต่ละคำลึกซึ้งอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่มีจริงที่เกิดขึ้นเป็นไป เป็นธรรมะ ไม่ใช่เราเป็นอนัตตา

อยู่ในโลกของอัตตา แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เกิดขึ้น สิ่งนั้นดับ เกิดเมื่อมีเหตุปัจจัยและดับ เป็นอนัตตา ... ไม่มีอะไรนอกจากสิ่งที่กำลังปรากฏ จริงไหม? หลงยึดถือว่ามีเราตั้งแต่เกิดจนตาย ค่อยๆ รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งมีเมื่อเกิดและดับไปไม่กลับมาอีกเลย

คุณอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ
(เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ)
สนทนากับ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอาจารย์ มศพ.

เรื่อง “ธรรมกับความจริงของชีวิต”

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567
เวลา 13.30 - 15.00 น.

Facebook : วิทยุออนไลน์บ้านธัมมะ www.facebook.com/share/v/4UysBG8UuFJ54ujj

Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ
www.facebook.com/share/v/D1BnugU7f4ifuxwT

Youtube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา www.youtube.com/live/JY-eIQgU0Wo?si=TtqGwWaXWswE9ntr

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย เซจาน้อย  วันที่ 7 ต.ค. 2567

อนุโมทนาครับ