[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 193
เมื่อพระศาสดาประทับนั่งบนบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ณ ภพดาวดึงส์ทรงกระทำพระมารดาให้เป็นกายสักขี แสดง พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ สัตว์ ๘๐ โกฏิ ดื่มน้ำอมฤต ในวันเสด็จลงจากเทวโลกสัตว์ ๓๐ โกฏิ ดื่มน้ำอมฤต
ใน สักกปัญหสูตร เทวดา ๘๐,๐๐๐ ได้ดื่มน้ำอมฤตแล้ว
ใน ฐานะทั้ง ๔ เหล่านี้ คือ ใน มหาสมัยสูตร ใน มงคลสูตร ใน จุลลราหุโลวาทสูตร ใน สมจิตตปฏิปทาสูตร สัตว์ผู้ได้ตรัสรู้ธรรมกำหนดไม่ได้ พระองค์เสด็จอุบัติเพื่อความอนุเคราะห์แก่สัตวโลก แม้นี้แล เบื้องหน้าแต่นี้จากวันนี้ไป (และ) ในอนาคตกาล พึงทราบเนื้อความในอธิการนี้ดังกล่าวมานี้ แม้ด้วยอำนาจแห่งเหล่าสัตว์ผู้อาศัยพระศาสนาแล้วดำรงอยู่ในทางสวรรค์และพระนิพพาน
[เล่มที่ 46] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 325
ในเวลาจบเทศนา เทวดาทั้งหลายฟังทางแห่งความเสื่อมทั้งหลายแล้วตั้งใจมั่นโดยแยบคาย สมควรแก่ความสังเวชที่เกิดขึ้นบรรลุโสดาปัตติผล สกทาคามิผล และอนาคามิผล พ้นที่จะคณนานับเหมือนอย่างที่ตรัสไว้ว่า เทวดาทั้งหลายที่บรรลุมรรคผลใน สูตรนั้น คือ มหาสมัยสูตร มงคลสูตร สมจิตตสูตร ราหุโลวาทสูตร ธรรมจักรสูตร ปราภวสูตร และ เทวตาสมสูตร มีไม่น้อย ประมาณไม่ได้ ส่วนธรรมาภิสมัยใน ปราภวสูตร นี้ พ้นที่จะคณนานับ ดังนี้.
จบ ปรารภววสุตตวัณณนา แห่งอรรถกถาขุททกนิกาย ชื่อ ปรมัตถโชติกา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น