สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค โสตาปัตติสังยุตต์ ราชาสูตร มีข้อความว่า
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าจักรพรรดิ์เสวยราชสมบัติเป็นอิสสราธิบดีในทวีปทั้ง ๔ สวรรคตแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คือ ได้เป็นสหายของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ ท้าวเธอแวดล้อมไปด้วยหมู่นางอัปสร เอิบอิ่ม พรั่งพร้อม บำเรออยู่ด้วยกามคุณ ๕ อันเป็นทิพย์ ณ สวนนันทวันในดาวดึงส์พิภพนั้น ท้าวเธอประกอบด้วยธรรม ๔ ประการก็จริง ถึงอย่างนั้น ท้าวเธอก็ยังไม่พ้นจากนรก จากกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน จากปิตติวิสัย และจากอบาย ทุคติ วินิบาต
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกเยียวยาอัตภาพ อยู่ด้วยคำข้าวที่แสวงหามาได้ด้วยปลีแข้ง นุ่งห่มแม้ผ้าที่เศร้าหมอง เธอประกอบด้วยธรรม ๔ ประการก็จริง ถึงอย่างนั้นเธอก็พ้นจากนรก จากกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน จากปิตติวิสัย และจากอบาย ทุคติ วินิบาต
ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน
อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของพวกเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม
นี่เป็นประการที่ ๑ ประการต่อไป มีข้อความว่า
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว อันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
นี่เป็นธรรมประการที่ ๒ ต่อไปประการที่ ๓ และ ๔
ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติสมควร คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค ผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท วิญญูชนสรรเสริญ อันตัณหาและทิฏฐิไม่ลูบคลำแล้ว เป็นไปเพื่อสมาธิ
อริยสาวกย่อมประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ เหล่านี้
พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย การได้ทวีปทั้ง ๔ กับการได้ธรรม ๔ ประการ การได้ทวีปทั้ง ๔ ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ ซึ่งจำแนกออกไปแล้ว ๑๖ หน ของการได้ธรรม ๔ ประการ
เพราะฉะนั้น อะไรมีอานิสงส์มาก
สำหรับการให้เป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาท บางท่านคอยโอกาสว่า มีทรัพย์สินมากๆ แล้วจะให้ แต่ถ้าท่านให้ทานแม้เล็กน้อย แม้นิดหน่อย แม้เป็นสิ่งซึ่งดูเหมือนกับว่าจะไม่มีประโยชน์ หรือว่าไม่มีความหมายสำหรับท่าน แต่ว่าเป็นประโยชน์หรือว่ามีความหมายมากสำหรับผู้รับ แม้เป็นสัตว์เดรัจฉาน ในขณะที่ให้ ก็เป็นกุศลจิต เป็นกุศลกรรม
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 169