เรียนถามวิทยากรครับ
โดยปกติปุถุชนคนทั่วในแต่ละวัน มีจิตเกิดกับเขากี่ประเภทครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จิต เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพรู้ เป็นใหญ่ เป็นประธานในการรู้ เมื่อจิตเกิดขึ้นก็ต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย เจตสิกที่มี มี 52 เจตสิก ประกอบกับจิต เกิดร่วมกับจิต ทำให้จิตมีความแตกต่างกันไป ตามเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย ครับ จิต จึงแบ่งเป็นชาติ มี 4 ชาติครับ ซึ่งก่อนอื่นก็เข้าใจ คำว่า ชาติ ก่อน ครับ
ชาติ ไม่ได้หมายความว่า เป็นชาติต่างๆ เช่น ชาติไทย ชาติจีน ฯลฯ และ ไม่ใช่ ชนชั้น วรรณะ แต่ เป็น "สภาพของจิต" ชาติ (ชา- ติ) จึงหมายถึงการเกิด คือ การเกิดขึ้นของจิตและเจตสิก เกิดขึ้น ต้องเป็นชาติหนึ่ง ชาติใด คือ กุศลชาติ อกุศลชาติ วิบากชาติ กริยาชาติ จะไม่เป็นชาติหนึ่งชาติใดไม่ได้เลย ครับ
ชาติของจิต หรือ ประเภทของจิตที่มีการเกิดขึ้น มี 4 ชาติ ดังนี้ ครับ
1.กุศลจิต หรือ กุศลชาติ
2.อกุศลจิต หรือ อกุศลชาติ
3.วิบากจิต หรือ วิบากชาติ
4.กิริยาจิต หรือ กิริยาชาติ
กุศลชาติ กุสล (กุศล) + ชาติ (การเกิด , จำพวก , หมู่ , เหล่า , ชนิด) คือ การเกิดที่เป็นกุศล , จำพวกกุศล หมายถึง กุศลจิต ๒๑ ดวง และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เป็นชาติที่เป็น เหตุ ให้เกิด กุศลวิบาก เมื่อจิตเกิดขึ้น ๑ ขณะ มีเจตสิกเกิดร่วมด้วยหลายดวง ทั้งจิตและเจตสิกจะต้องเป็นชาติเดียวกัน เช่น ขณะที่เมตตาเกิดขึ้น ขณะนั้น จิตเป็นกุศลจิต ประกอบด้วยเจตสิกที่ดี มี ศรัทธาเจตสิก เป็นต้น
อกุศลชาติ อกุสล (อกุศล) + ชาติ (การเกิด , จำพวก , หมู่ , เหล่า , ชนิด) คือการเกิดเป็นอกุศล , จำพวกอกุศล หมายถึง อกุศลจิต ๑๒ ดวง และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เป็นชาติที่เป็น เหตุ ให้เกิด อกุศลวิบาก เช่น โลภมูลจิต (จิตที่ติดข้อง) โทสมูลจิต เป็นต้น
วิบากชาติ วิปาก (ความสุกวิเศษ, ผล) ชาติ (การเกิด, จำพวก) คือการเกิดเป็นวิบาก , จำพวกวิบาก หมายถึง วิบากจิต ๓๖ ดวง และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เป็นชาติที่เป็น ผลของกรรม คือ กุศลวิบากเป็นผลของกุศลกรรม อกุศลวิบาก เป็นผลของอกุศลกรรม เช่น ขณะที่เกิด ปฏิสนธิจิต เป็นผลของกรรม ขณะที่ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้กระทบสัมผัส เป็นต้น เป็นวิบากจิต ที่เป็นผลของกรรมในชีวิตประจำวัน
กิริยาชาติ กิริยา (สักว่ากระทำ) + ชาติ (การเกิด, จำพวก, หมู่, เหล่า, ชนิด) การเกิดเป็นกิริยา , จำพวกกิริยา หมายถึง กิริยาจิต ๒๐ ดวง และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เป็นชาติที่ไม่ใช่ เหตุ และไม่ใช่ ผล เพียงเกิดขึ้นกระทำกิจการงาน แล้วก็ดับไปเท่านั้น
ซึ่งจิตของปุถุชน ก็เกิด จิต ทั้ง 4 ชาติ 4 ประเภท ตามสมควร ว่าจะเกิดจิตประเภทใดมากหรือ น้อย ครับ ขออนุโมทนา
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ขอบคุณครับ ขอถามต่อว่า ในบรรดาจิต๘๙/๑๒๑ ดวงนั้น
ปุถุชนสามัญทั่วไป ผู้ที่ไม่ได้ฌาน นั้นจะมีจิตเกิดขึ้นกับเขาในแต่ละวันกี่ดวงครับ
จะมีเฉพาะกามวจรจิต ๔๕ คือเว้น มหากิริยา ๘และ หสิตุปปาทจิต๑ ใช่หรือไม่ครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ใช่ครับ โดยทั่วไปเป็นอย่างนั้น แต่ก็มากน้อยแตกต่างกันไปครับ ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปุถุชน เป็นผู้มากไปด้วยกิเลส ยังละกิเลสอะไรๆ ไม่ได้ ยังถูกกิเลสพัดพาไป ยังต้องเกิดในภพต่างๆ อยู่ร่ำไป โดยปกติก็มีอกุศลจิตเกิดเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่อกุศลอย่างเดียว กุศลก็มี ในขณะที่ให้ทานบ้าง งดเว้นจากทุจริตกรรมทั้งหลายบ้าง ฟังพระธรรมบ้าง เป็นต้น ขณะที่เป็นวิบาก ก็มี เช่น เห็น ได้ยิน เป็นต้น และ ถ้าศึกษาละเอียดยิ่งขึ้น ก็จะเข้าใจว่า แม้จิตชาติกิริยาของปุถุชนก็มีด้วย ก็ต้องตั้งต้นที่การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ จิตมีจริงๆ แต่ไม่มีรูปร่าง เพราะเป็นนามธรรม เป็นสภาพรู้เป็นธาตุรู้ ทุกขณะไม่เคยปราศจากจิตเลย มีจิตเกิดขึ้นเป็นไปอย่างไม่ขาดสาย จิตขณะหนึ่งดับไปเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ปกติทุกๆ วัน ทุกๆ ขณะของจิต ถ้าไม่ได้เป็นไปในทาน ในศีล ในการเจริญสติปัฏฐานแล้ว ส่วนมากจะเป็นไปในทางอกุศล ทั้ง โลภะ โทสะ โมหะ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ