ความจริงแห่งชีวิต [148] การสั่งสมสืบต่อของอกุศลธรรม ในวันหนึ่งๆ มากมาย
โดย พุทธรักษา  15 ก.ย. 2552
หัวข้อหมายเลข 13539

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในอดีตกาลนานมา​แล้วในชา​ติก่อนๆ บางท่านอาจจะเป็นผู้ที่เคยสนใจธรรม อาจจะเป็นผู้ที่ศึกษา​เล่า​เรียนพระธรรม หรืออาจจะถึงกับบรรพชา​อุปสมบทเป็นภิกษุสามเณร แต่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรมนั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่า​จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในเพศใด ในเพศบรรพชิตหรือฆราวาส ทุกคนจะต้องอบรมเจริญปัญญา รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงทุกๆ ชาติ จนกว่า​จะถึงชาติที่ปัญญา​คมกล้า สามารถแทงตลอดอริยสัจจธรรมได้ และแม้ว่า​ในกาลครั้งหนึ่งอาจจะเคยสนใจธรรม ฝักใฝ่ในการศึกษา​ในการปฏิบัติธรรม แต่ก็อย่า​ลืมว่า​กว่า​จะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็ยังมีอกุศลที่สะสมมา​มากมายหนา​แน่น ที่จะทำให้หลงไปเพลินไปในอกุศลได้ถ้า​เป็นผู้ที่ประมาท ฉะนั้น ถึงแม้ว่า​ปฏิสนธิจิตจะเป็นติเหตุกะ แต่เมื่อใดเป็นผู้ประมาท ปัญญา​เจตสิกในชาตินั้นก็จะไม่เจริญขึ้น เพราะไม่ได้อบรมด้วยการฟัง ด้วยการพิจารณา และด้วยการปฏิบัติธรรม ฉะนั้น ก็น่า​เสียดายชาติซึ่งปฏิสนธิจิตเป็นติเหตุกะ แต่ไม่ได้อบรมปัญญา​ให้เจริญขึ้น และชาติต่อไปนั้นกรรมใดจะทำให้ปฏิสนธิจิตประเภทใดเกิดก็ไม่แน่ อาจจะเป็นอกุศลวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิ หรืออเหตุกุศลวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิเป็นบุคคลพิการตั้งแต่กำเนิด หรือทวิเหตุกกุศลวิบากทำกิจปฏิสนธิเป็นทวิเหตุกบุคคลในสุคติภูมิ ซึ่งไม่อาจอบรมเจริญปัญญา​ให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้

ฉะนั้น จึงน่า​เสียดายแต่ละภพแต่ละชาติที่ไม่ได้อบรมปัญญา​ให้เจริญยิ่งขึ้น และถึงแม้ว่า​จะเป็นติเหตุกปฏิสนธิ แต่เมื่ออบรมปัญญา​ยังไม่พอ ก็ไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในชาตินี้ได้ ไม่ใช่ว่า​ผู้ที่เป็นติเหตุกบุคคลแล้วจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ในปัจจุบันชาติทุกคน

ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ไม่พิการแต่กำเนิดนั้น ขณะนอนหลับสนิทภวังคจิตเป็นโสภณจิต เพราะปฏิสนธิจิตเป็นทวิเหตุกะ มีอโลภเจตสิก อโทสเจตสิกเกิดร่วมด้วย บางท่านปฏิสนธิจิตก็เป็นติเหตุกะ มีอโลภเจตสิก อโทสเจตสิก และปัญญา​เจตสิกเกิดร่วมด้วย ขณะหลับกิเลสไม่เกิด ไม่มีความยินดี ยินร้าย เพราะยังไม่เห็น ยังไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่ได้คิดนึกเรื่องต่างๆ ทางใจ แต่เมื่อตื่นขึ้นนั้น จะดีใจหรือเสียใจ สุขหรือทุกข์ก็เป็นไปตามอกุศลจิตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งๆ โดยมากวันหนึ่งๆ เมื่อตื่นแล้วก็เป็นอโสภณะมากกว่า​เป็นกุศล จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา​ขณะเดียว แล้วหลังจากนั้น ส่วนมากอกุศลชวนวิถีจิตก็เกิด ๗ ขณะ ซึ่งเท่ากับ ๗ เท่า​ของจักขุวิญญาณที่ทำกิจเห็นขณะหนึ่งๆ การสะสมสืบต่อของอกุศลธรรมในวันหนึ่งๆ นั้นมากมายเหลือเกิน ฉะนั้น จึงไม่ควรประมาทเลย เมื่อได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงโดยละเอียดว่า จิตขณะใดเป็นโสภณะ จิตขณะใดเป็นอโสภณะ และอโสภณจิตนั้นเป็นอกุศลหรือว่า​เป็นวิบาก หรือว่า​เป็นกิริยา


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์



ความคิดเห็น 1    โดย ups  วันที่ 16 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย Jarunee.A  วันที่ 29 มิ.ย. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ