//www.dhammahome.com/webboard/topic/3271
ขอท่านผู้รู้ ชี้แจงถึงลักษณะที่เวลาคนเราคิดนึกนั้น มี ๒ แบบ คือคิดนึกแบบเป็นคำพูด กับคิดนึกแบบเป็นภาพ เวลาคนเราคิดนึก เป็นการปรุงแต่งร่วมกันระหว่างเจตสิกในกลุ่ม สังขารขันธ์ใช่หรือไม่ เจตสิกที่มีหน้าที่คิดนึกโดยเฉพาะมีหรือไม่ ถ้าท่านใดพอที่จะอธิบายขยายความ ให้ละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น โดยนัยคำถามนี้ ขอขอบคุณครับ
อีกข้อสงสัยหนี่ง รูปและเสียง (โดยมาก) รวมถึงกลิ่น รส และสัมผัส (โดยน้อย) ที่ปรากฏขึ้นหลังจากขณะกระทบสัมผัสผ่านไปนานแล้วนั้น โดยปรมัตถธรรมนั้นคืออะไรครับ เช่น ฝันไป มี รูปและเสียงปรากฎ เป็นต้น
อีกข้อหนึ่งครับ เวลาเราคิดนึกมีเสียงคำพูดในหัวสมอง เสียงนั้นโดยปรมัตถธรรมคืออะไรครับ มีกลไกอะไรร่วมกันปรุงแต่งขึ้นมาบ้าง
วิตกเจตสิกมีลักษณะ ตรึก คิด ดำริ เป็นเจตสิกในกลุ่มสังขารขันธ์ รูป เสียง เป็นต้น ที่ผ่านไปแล้ว ดับไปแล้ว โดยปรมัตถ์ เรียกว่า อดีตรูปขันธ์ แต่เมื่อนึกถึงในภายหลัง หรือฝันเห็น เป็นเพียงเรื่องราวของรูปเท่านั้น ไม่มีตัวรูปจริงๆ มาปรากฏ เวลาคิดนึก เหมือนมีคำพูดหรือศัพท์เกิดขึ้น พึงทราบว่าเป็นจิตเจตสิกที่เกิดขึ้น คิดถึงรูปร่างร่างสันฐานของสิ่งที่ เห็น ได้ยิน เป็นต้น
เชิญคลิกอ่านที่นี
วิตก
การคิดนึก คือ วิตกเจตสิก เป็น ๑ ในเจตสิก ๕๐ ที่เป็นสังขาร
ขันธ์ จิตแต่ละดวง ที่เกิดขึ้นจะต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยอย่างน้อย ๗
ประเภท ซึ่งได้แก่ ทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ ส่วนจิตที่เหลือมีเจตสิกเกิดร่วม
ด้วยมากกว่านั้น
วิตกเจตสิกเกิดร่วมกับจิตเกือบทุกดวง พร้อมกับเจตสิกดวงอื่นๆ
เว้น ทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ และ ฌานจิต ๔ ดวง ตั้งแต่ทุติยฌานจิตขึ้นไป
ทำกิจตรึกหรือจรดในอารมณ์ที่ผัสสะกระทบ ไม่ว่าอารมณ์นั้นจะเป็นบัญญัติหรือ
ปรมัตถ์
ความฝันหรือการคิดนึกถึงเรื่องราวต่างๆ เป็นบัญญัติ เพราะขณะนั้นไม่
มีสภาวลักษณะที่แท้จริงปรากฎ มีแต่เพียงสภาพนามธรรมเท่านั้น