ทางปัญจทวาร รูปปรากฏแต่ละทาง มันดูไม่มีชีวิตชีวามีแต่รูป ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น ฯลฯ อย่างนี้ก็คงเป็นธัมมารมณ์ละมั๊ง! ที่ติดข้องกันเพราะมีทั้ง ๒๘ รูปไปรวมกัน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ทางปัญจทวาร คือ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย
ทางตา รู้สี (เป็นอารมณ์ของจิตเห็น) ซึ่งสีเป็นรูปหนึ่งใน 28 รูป
ทางหู รู้เสียง
ทางจมูก รู้กลิ่น
ทางลิ้น รู้รส
ทางกาย รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส (เย็นร้อน อ่อนแข็ง ตึงไหว)
ดังนั้นทางปัญจทวารไม่ใช่มีแต่รูป คือสีที่เท่านั้นที่จิตรู้ แต่มีเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะด้วยที่จิตรู้ ทางปัญจทวาร แต่ธรรมารมณ์รู้ได้ทางใจ
อย่างนี้ก็คงเป็นธัมมารมณ์ละมั๊ง! ที่ติดข้องกัน เพราะมีทั้ง ๒๘ รูปไปรวมกัน?
และควรเข้าใจว่าโลภะติดข้องได้ทุกอย่างเว้นโลกุตตรธรรม ดังนั้น แม้รูป ขณะที่เห็น (ทางปัญจทวาร) ติดข้องแล้วในสิ่งที่เห็นโดยไม่รู้ตัว ไม่ต้องรอถึงทางมโนทวารเลยครับ
ส่วนธรรมารมณ์ได้แก่ จิตทั้งหมด เจตสิกทั้งหมด ปสาทรูป 5 สุขุมรูป 16 นิพพาน และบัญญัติ รูปารมณ์หรือสี เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ ไม่ใช่ธรรมมารมณ์ครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
โลภะเป็นสภาพที่ติดข้อง ไม่ว่าจะเกิดทางทวารใดก็มีความติดข้องเป็นลักษณะและโลภะเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนาความรู้สึกยินดีก็มี เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนาความรู้สึกเฉยๆ ก็มี
โลภะที่เกิดทางปัญจทวาร (ในชวนวิถี) ติดข้องในอารมณ์ที่รู้ได้ทางทวารนั้นๆ ได้แก่ สี เสียง กลิ่น รส และสัมผัสทางกาย ทั้งๆ ที่ขณะนั้นยังไม่คิดเลยว่ารูปนั้นเป็นอะไร
โลภะที่เกิดทางมโนทวาร ติดข้องทั้งในรูป นาม และบัญญัติ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเว้นโลกุตรธรรมแล้ว โลภะติดข้องทั้งปรมัตถธรรมและบัญญัติครับ
อนุโมทนาคุณแล้วเจอกันค่ะ