ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญรับฟัง...
นี่คือการอบรมเจริญปัญญา
“ฟัง” - เพื่อเข้าใจ หรือว่า เพื่อจะให้สติปัฏฐานเกิด เพื่อรู้แจ้งอริยสัจธรรม ... “เพื่อเข้าใจ” เพราะเหตุว่า ถ้ายังไม่เข้าใจ จนถึง ขั้นที่สามารถจะ รู้ ลักษณะของ ”สิ่งที่ปรากฏ” ก็ไม่มีทาง ที่จะ เข้าใจ ได้ เพราะฉะนั้น “ในขณะที่ฟัง” นี่–ไม่คิดถึงสติปัฏฐาน ไม่คิดนิพพาน ไม่คิดถึงการที่จะละกิเลส เพราะเหตุว่า “ตัวตน-ละ-ไม่ได้” ปัญญา เท่านั้น .. ที่สามารถที่จะ “ละกิเลส” ได้ แต่ ถ้าไม่มี ปัญญา พยายาม หาทางใดๆ ที่จะละกิเลส หรือว่า ที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ... ก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น “ฟัง” เพื่อละความต้องการ ที่อยากจะถึง หาหนทาง เมื่อไหร่จะทัน หรือ อะไร ก็แล้วแต่ ให้รู้ว่า เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย ต้อง มี ความเข้าใจ ตามลำดับขั้นจริงๆ คือ ขณะนี้ มี ความเข้าใจ แค่ไหน ก็ เป็นผู้ที่ตรง ว่า ขณะนี้ กำลังพูดถึง “สิ่งที่ปรากฏ-ทางตา” มีจริงๆ แล้วจะรู้ว่า เป็นเพียง ธาตุหรือธัมมะ ชนิดหนึ่ง ซึ่งเพียงปรากฏ ไม่มีคน-ไม่มีสัตว์-ไม่มีสิ่งใด-ที่เป็นตัวตน ในสิ่งที่ปรากฏเลย เพราะฉะนั้น ที่จะ “แยก” การที่ “คิด-อย่างรวดเร็ว” จำ-อย่างรวดเร็ว ว่า กำลัง-เห็น-สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นการรู้ความจริงว่า “เห็น-สิ่งที่ปรากฏ” พอจะเป็นไปได้ไหม เพียงแค่ -มี -สิ่งที่ปรากฏ แล้ว เริ่มที่จะ เข้าใจว่า “เพียง-เห็น-สิ่งที่ปรากฏ” ถ้าเข้าใจ อย่างนี้ ว่า “กำลังเห็น-เพียงสิ่งที่ปรากฏ” เป็น ความเข้าใจ...ขั้นฟัง แต่ จริงๆ สิ่งที่ปรากฏ ยังเป็นคนหนึ่งคนใด อยู่เสมอ ก็แสดงให้เห็นว่า กว่า-ปัญญา-จะอบรม จนกระทั่ง คลาย การมี สิ่งหนึ่งสิ่งใด ในสิ่งที่ปรากฏ
พระโสดาบัน จะมีการเกิด อีก อย่างมาก เพียง ๗ ชาติ ลองคิดดู ในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งเกิดดับ นานแสนนาน มาแล้ว พระพุทธเจ้าเอง ทรงบำเพ็ญ พระบารมี ๔ อสงไขยแสนกัปบ้าง ๘ อสงไขยแสนกัปบ้าง ๑๖ อสงไขยแสนกัปบ้าง แล้วเรา ขณะนั้นอยู่ที่ไหน กว่า สามารถ ที่จะ ”ฟัง-เข้าใจ” ว่า จริงๆ แล้ว ทุกอย่างที่เป็นธัมมะ “มี ลักษณะ เฉพาะตน” ... “ซึ่ง ใคร ก็-เปลี่ยนแปลง-ไม่ได้” สิ่งที่ปรากฏ-ทางตา... มีจริง เป็นรูปที่กระทบ จักขุปสาทะ เกิด แล้วดับ แม้ “ขั้นฟัง” จริง หรือเปล่า ถ้า จริง ... อบรมเจริญปัญญา จนกว่าจะ ค่อยๆ เข้าใจ ... ในขณะที่ - กำลังเห็น ว่า ขณะนี้ - ไม่มีคน -ไม่มีอะไร แต่ มี สิ่งที่ปรากฏ ... เป็นรูปร่างสันฐานต่างๆ แม้เป็นรูปร่างสันฐานต่างๆ หลายวาระ เพราะว่า จะต้อง มี เพียง สิ่งที่ สามารถ กระทบ จักขุปสาท ปรากฏ แล้วก็ดับไป นับวาระไม่ได้ ไม่มีใคร ไปนั่งนับ วาระ เพราะว่า เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ การที่เคย “จำ” ว่า มี คน ในขณะที่-กำลังเห็น ถูกหรือผิด มั่นคง พอ ที่จะ เข้าใจ ใน ความหมายว่า “อนัตตา" เป็นธัมมะ ... ซึ่ง-ไม่ใช่สัตว์-ไม่ใช่บุคคล-ไม่ใช่ตัวตน แต่ เป็นธัมมะ อย่างหนึ่ง ซึ่งปรากฏได้ ทางตา คือ ...“การอบรมเจริญปัญญา – ด้วยความเป็นผู้ตรง”
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ถ้าฟังแล้วไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังฟังให้เข้าใจ ก็จะคิดไปต่างๆ นานา คิดว่าจะไปบังคับไม่ให้โกรธเกิด อยากให้กุศลเกิดมากๆ ท่านอาจารย์ก็ย้ำหนักหนา แต่ก็ไม่ไตร่ตรอง ท่านแยกแยะและแจกแจงให้เข้าใจ แต่กิเลสมาก ก็บดบังด้วยโลภะ เลยกลายเป็นฟังไม่ดี และก็ไม่เข้าใจ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ