ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สรุปสาระสำคัญ
ของการสนทนาธรรม
ที่แก่งกระจาน คันทรี่ คลับ จ.เพชรบุรี
วันพุธที่ ๓๑ พฤษภาคม ถึง วันพฤหัสบดีที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๐
---------------------------
~ ถ้ามีคนเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ก็จะมีคนดีเพิ่มขึ้น
~ สิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใดในสากลจักรวาล ไม่มีอะไรเท่ากับคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคำ
~ จะเอาความไม่รู้ไปแก้ปัญหาใดๆ ไม่ได้เลย
~ ถ้าเป็นไปเพื่อความติดข้องต้องการเมื่อไหร่ นั่น ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจ เข้าใจเมื่อไหร่ก็ละความไม่เข้าใจเมื่อนั้น ทุกครั้งที่ฟังก็เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
~ ความอยาก ไม่ทำให้ละ ความอยากเกิดเพราะความไม่รู้
~ เพราะความไม่รู้และเพราะเป็นเรา จึงหาหนทางว่าทำอย่างไรจึงจะไม่โกรธ เพราะทำไม่ได้ ไม่มีอะไรจะไปละกิเลสได้ นอกจากปัญญา
~ ใครที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ผู้นั้น ได้รับมรดกจากการทรงบำเพ็ญพระบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงตรัสรู้และทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา
~ ฟังพระธรรม เพื่อปัญญาปรากฏ
~ ความเข้าใจธรรม ทำลายความหวังความต้องการ
~ ประมาทกิเลส ไม่ได้
~ เมื่อไม่เห็นประโยชน์ของการเข้าใจความจริง แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงแสดงพระธรรม ก็ไม่ไปเฝ้าเพื่อฟังพระธรรมจากพระองค์
~ ทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อไม่กล่าวคำจริงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ คอยให้ปัญญาเกิดเอง เป็นไปไม่ได้
~ อะไรคือสิ่งที่ปัญญาสามารถรู้ได้ในขณะนี้? สิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ปัญญาสามารถรู้ตามความเป็นจริงได้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา
~ พระภิกษุจะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการรับเงินทอง หรือ จะเปิดเผยพระธรรมวินัยว่า พระภิกษุรับเงินทองไม่ได้? เพราะการรับเงินทองของพระภิกษุ ทำลายพระธรรมวินัย ไม่ใช่การทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา แต่การกล่าวคำจริง เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยความเป็นมิตร หวังดี ที่จะได้เข้าใจอย่างถูกต้อง เป็นการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา
~ ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ จะต้องสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้แน่นอน กลับมาเป็นบุคคลนี้อีกไม่ได้ เหมือนกับชาติก่อนที่ผ่านมา การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ประเสริฐกว่าการที่จะตายไปโดยไม่ได้ฟังพระธรรมเลย เพราะไม่ได้ฟังพระธรรม ความไม่รู้จึงมีเพิ่มมากขึ้น
~ อดทนที่จะฟังพระธรรมให้เข้าใจ เพราะธรรม ยาก ต้องอดทนที่จะฟัง เมื่อไหร่ นานแค่ไหน ก็อดทนฟัง ทีละคำ จนกว่าจะเข้าใจ
~ โรคกาย ก็น่ากลัว มีตั้งหลายอย่าง นับวันก็เพิ่มขึ้น ทั้งหมดทุกส่วนของร่างกาย ตา หู จมูก ลิ้น อวัยวะต่างๆ แต่โรคใจ (กิเลส) น่ากลัวกว่านั้น โรคใจใครจะรักษาได้ ผู้เดียวที่เป็นหมอที่รักษาโรคใจนี้ได้ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ โรคที่น่ากลัวที่สุด คือ โรคไม่รู้ (อวิชชา) พอมีโรคไม่รู้ จึงมีโรค (คือกิเลส) อย่างอื่นตามมาหมดเลย จนถึงทุกวันนี้ นานแสนนานมาแล้วก็ยังเป็นโรคนี้อยู่ ตราบใดที่ยังไม่มียารักษาโรค คือ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ จะเอายาอะไรมารักษาโรคไม่รู้ (อวิชชา) ? ก็คือ รู้ (ปัญญา) จากไม่รู้ ก็เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
~ ทุกคำที่ไม่ทำให้เข้าใจความจริง นั่น ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ ต้องอดทนไหมที่จะรู้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นใคร ใครก็ตามที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังคำของพระองค์ รู้เลย พระคุณมหาศาล จากการที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเข้าใจเลย เป็นการเริ่มรู้ความต่างระหว่างคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ คำของคนอื่น
~ ช่วยให้คนได้เข้าใจถูก เป็นกุศล เป็นความดี แต่ถ้าให้เขาเข้าใจผิด ตรงกันข้ามเลย ทำลายชีวิตเขาทั้งในชาตินี้และในชาติต่อไปด้วย
~ อย่าได้ทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความไม่รู้ เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจความจริง ก็จะอนุเคราะห์ผู้อื่นให้ได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก ที่จะไม่เป็นการทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นำไปสู่ความไม่ใช่เรา เพราะเป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่มีจริง แต่ละหนึ่ง เท่านั้น
~ เป็นคฤหัสถ์ ก็ฟังธรรม ศึกษาธรรมได้ เจริญกุศลทุกประการได้
~ ก่อนบวชก็ต้องเข้าใจธรรม เมื่อบวชแล้วก็มีความจริงใจที่จะดำเนินตามรอยพระบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมขัดเกลากิเลส และประพฤติตามพระวินัย มิฉะนั้นแล้ว ก็เป็นโทษ
~ พระภิกษุ เป็นโทษมาก ถ้าอาศัยก้อนข้าวของชาวบ้าน แต่ไม่ได้ศึกษาธรรมไม่เข้าใจธรรม ไม่ทำประโยชน์แก่ชาวบ้าน เพราะว่าพระภิกษุจะต้องรู้ว่า เป็นผู้ที่จะต้องทำความดีในเพราะการขอ ซึ่งไม่ใช่ขออย่างขอทาน ไม่ใช่ขออย่างผู้อยากจะได้ แต่ขอเพราะความประพฤติที่แสดงออกทางกาย วาจา และก็มีการศึกษาธรรม ช่วยสังคมด้วยความเข้าใจ ให้เขาได้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เท่ากับช่วยให้เขาได้พ้นจากความไม่รู้ในชาติก่อนๆ ซึ่งไม่รู้มานานแสนนาน
~ เป็นเรื่องที่จะต้องเข้าใจจริงๆ ว่า ถ้าไม่สามารถที่จะรักษาพระธรรมวินัยและศึกษาพระธรรม เพราะถ้าไม่เข้าใจธรรม รักษาพระวินัยไม่ได้ ไม่ควรบวช เพราะเหตุว่าเป็นโทษอย่างยิ่ง
~ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ เป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนา เมื่อไม่เข้าใจพระธรรมวินัย
~ ถ้าเข้าใจผิด ก็คิดผิด พูดผิด
~ มีกิเลส แล้วจะดับกิเลสได้อย่างไร ถ้าไม่อาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ ไม่มีปัญญา ดับกิเลสไม่ได้ ไปปฏิบัติผิดๆ แล้วคิดว่านั่นเป็นหนทางดับกิเลส เป็นไปไม่ได้
~ เกิดมา ประโยชน์อยู่การมีโอกาสได้ฟังคำจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ หวังว่าทุกคนจะมีความเข้าใจที่มั่นคง ถูกต้อง ที่จะแก้ไขการที่ไม่ศึกษาธรรมให้ถูกต้องและประพฤติผิดตามๆ กันมา แก้ได้แค่ไหน ก็แค่นั้น ไฟกองใหญ่ น้ำนิดหน่อย ก็ยังสามารถดับส่วนที่เป็นไฟได้ ตามสมควร.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
_/\_ _/\_ _/\_
ขอนอมน้อมต่อพระรัตนตรัย
กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาบุญด้วยค่ะอาจารย์
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
หนทางที่ประเสริฐคือรู้ความจริงที่ดับกิเลสได้เพราะรู้ในสิ่งที่ปรากฏด้วยการฟังความจริงที่พระพุทธองค์ทรงแสดงกล่าวถึงสิ่งที่มีจริงที่มีเดี๋ยวนี้
กราบนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในกุศลจิตท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และ คณะวิทยากรทุกท่านด้วยค่ะ
รู้สึกซาบซึ้งและเป็นบุญเหลือเกินที่ได้เกิดในเมืองไทยใต้ร่มพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้ฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านอาจารย์สุจินต์มีเมตตาถ่ายทอดธรรมที่ถูกต้อง เท่านี้ก็มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ แล้ว กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยสำนึกในพระคุณและความเมตตาของท่านอย่างสูงค่ะ ยิ่งฟังธรรมที่ท่านบรรยายก็ยิ่งซาบซึ้ง ฟังธรรมออนไลน์และเทปของท่านทุกวันค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขอกราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ