ฆ่าสุนัขตัวเองตาย โดยไม่ได้ตั้งใจ
โดย suwatlmt  27 ธ.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 10770

เนื่องจากให้กินยาป้องกันเห็บหมัด แต่ยามันแรงเกินขนาดที่สุนัขจะรับได้ (Overdose) ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา รู้สึกเสียใจมาก ต้องมาตายด้วยมือเรา ทั้งที่ตอนป้อนให้กิน ก็ยังหลบหนีไปแอบ แต่เราก็ใช้วิธีหลอก ซ่อนปนกับอาหารที่เค้าชอบ ยิ่งทบทวนเหตุการณ์ ยิ่งทำให้รู้สึกผิด และเสียใจมาก เจตนาเราไม่ได้ฆ่าสัตว์ เพราะไม่ครบองค์ประกอบ

แต่ก็นั่นแหล่ะ ชีวิตเค้าจะต้องมาจบด้วยน้ำมือเรา ทั้งๆ ที่ตอนยังอยู่ก็เลี้ยงดูแลเป็นอย่างดี ตอนนี้เสียใจมาก อยากให้ท่านสมาชิก และท่านผู้ใฝ่ธรรม ให้กำลังใจให้ข้อคิดธรรมะ สะกิดใจหน่อย

ขอกราบอนุโมทนาล่วงหน้า



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 28 ธ.ค. 2551

ขอเชิญคลิกอ่านที่ ..

ไม่มีเจตนาโดยตรงจะผิดบาป แค่ไหน

ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่บาป [มหาวิภังค์]


ความคิดเห็น 2    โดย พุทธรักษา  วันที่ 29 ธ.ค. 2551

เรื่องเกิดแล้ว ผ่านไปแล้ว ไม่เจตนา ความเสียใจที่เกิดจากเรื่องที่ ผ่านไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ แต่การจดจำเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เพื่อความระมัดระวังการกระทำใดๆ ในครั้งต่อๆ ไป มีประโยชน์ค่ะ.


ความคิดเห็น 3    โดย orawan.c  วันที่ 29 ธ.ค. 2551

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ฯลฯ ไม่มีใครหนีหรือล่วงพ้นจากกรรมไปได้ กรรมทำให้สุนัขของท่านถึงเวลาต้องเปลี่ยนภพภูมิ ก็ต้องเป็นเช่นนั้น ไม่เป็นอย่างอื่นไปได้แน่นอน


ความคิดเห็น 4    โดย suwit02  วันที่ 29 ธ.ค. 2551

อย่าปล่อยให้ วันวาน ที่ผ่านพ้น ทำให้เรา ทุกข์ทน จนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิด อาจทำผิด ซ้ำลงไป ยิ่งเพิ่มวัน เสียใจ ไปอีกวัน คิดถึงเค้า ก็ทำบุญอุทิศกุศลให้เค้า

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย choonj  วันที่ 29 ธ.ค. 2551

จิตวิจิตรกรรมก็วิจิตร รักกันอยู่ดีๆ ยังมีอันเป็นไปอย่างนี้ได้ เกิดมาแล้วก็ต้องตาย หนีไม่พ้น สิ่งเกิดดับล้วนเป็นทุกข์ ล้วนไร้สาระไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ยึดเมื่อไร ทุกข์เมื่อนั้น เมื่อไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ก็ไม่ต้องขอกำลังใจ ทีหลังก็ต้องระวัง ให้หมากินยากันเห็บหมัด เห็บหมัดเมื่อกัดหมา ถ้าเห็บตาย ก็เป็นเจตนา เมื่อเจตนาก็ครบองค์ แล้วกรรมก็วิจิตรต่ออีก ครับ


ความคิดเห็น 6    โดย ajarnkruo  วันที่ 29 ธ.ค. 2551

ขอเชิญคลิกอ่าน -->

วิสาขาสูตร .. ว่าด้วยรักมีเท่าไรทุกข์ก็มีเท่านั้น


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 31 ธ.ค. 2551

ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ ธิดาช่างหูกกลับมาบ้านช้า พ่อโกรธ เอากระสวยขว้างไปถูกลูกสาวตาย ตัวพ่อก็เสียใจ ภายหลังไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรมบรรลุเป็นพระโสดาบัน และที่ลูกสาวตาย เพราะเขาหมดอายุ ใม่ใช่พ่อฆ่าลูกสาว ค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย paderm  วันที่ 1 ม.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จริงๆ แล้วไม่มีใครตายด้วยมือเราครับ แต่ตายเพราะกรรมของสัตว์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน ทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น แต่มีสภาพธรรมที่มีจริงคือ จิต เจตสิก รูป ดังนั้น ไม่มีสัตว์บุคคลทำกรรมและรับผลของกรรมแต่เป็นจิต เจตสิกที่เกิดขึ้นทำหน้าที่ เจตนาเจตสิกเป็นกรรม และเมื่อจิตเกิดขึ้นก็มีเจตสิกอื่นเกิดร่วมด้วย ซึ่งมีทั้งเจตสิกที่ดีงามและไม่ดี เป็นต้น ดังนั้นหากมีเจตนาดี ย่อมเป็นกรรมดีส่วนการได้รับผลของกรรมที่ดีไม่ดีก็เป็นกรรมของสัตว์นั้น เจตนาที่ดีจะให้ผลเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่ได้เลย เปรียบเหมือนปลูกข้าวสาลี ข้าวสาลีที่ปลูกจะเป็นสะเดาก็ไม่ได้ครับ หมอรักษาคนไข้ด้วยเจตนาดีแต่คนไข้ตายเพราะกรรมของบุคคลนั้น หมอมีเจตนาดีเป็นกรรมดีครับ จะเป็นบาปไม่ได้เลยครับ

ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 9    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 3 ม.ค. 2552

เมื่อเดือนก่อน จอดรถไว้ในซอยข้างบ้าน ลืมเอาไปเก็บไว้ในที่จอดตามปรกติ จนรุ่งเช้า เมื่อสตาร์ทและเคลื่อนรถ ก็ปรากฏว่าได้ทับเอาลูกสุนัขตัวน้อย (ที่มาอาศัยนอนใต้ท้องรถ) ตายไปตัวหนึ่ง แม่สุนัขที่เป็นเหลนโหลนของสุนัขที่เคยมีอุปการะแก่กันในละแวกบ้าน ก็ร้องวนเวียนอยู่ใกล้ๆ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนๆ ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนาในการทำให้เขาตาย เขาหมดกรรมเอง และได้ไปสู่ภพใหม่เรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ออกแรงขุดหลุมฝังร่างสุนัขอีกคำรบหนึ่งในชีวิต


ความคิดเห็น 10    โดย พุทธรักษา  วันที่ 3 ม.ค. 2552

ท่านอาจารย์มักกล่าวเสมอ ว่า "ผ่านไปแล้ว ..." สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนจริงๆ ถ้าไม่ตายแบบนี้ก็ตายแบบอื่น สุนัขบางตัว ทั้งป่วย ทั้งหิว ทรมานอยู่นานมากๆ เช่น สุนัขขี้เรื้อน


ความคิดเห็น 11    โดย hearthot  วันที่ 7 ม.ค. 2552

เมื่อ 3 เดือนก่อนเอากาแฟผสมนมให้ลูกสนัขกิน ปรากฏว่าเค้าตายอย่างน่าสงสาร แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะผสม เพียงแต่ว่าแก้วกาแฟที่เราทานเสร็จตอนเช้าก่อนไปทำงานนั่นแหละ แต่เรามักง่ายไม่ล้างแก้วให้สะอาด กลับเอานมมาชงใส่ แล้วป้อนให้ลูกสุนัขทาน ปรากฏว่าเช้าวันรุ่งขึ้นเค้าก็ปวดท้องมาก จึงพาไปหาหมอ หมอปั๊มหัวใจ ให้ออกซิเจน ทำทุกวิถีทาง แต่เค้าก็สิ้นลม รู้สึกผิดมากๆ ร้องไห้เสียใจ เหตุการณ์นี้ไม่เคยลืม ไม่นานมานักสิ้นปี 51 เดือนธันวาคม คุณพ่อก็มาจบชีวิตลง อาการก่อนสิ้นลม ก็แบบเดียวกับลูกหมาตัวนี้ อาการเหมือนกันเป๊ะ ปั้มหัวเหมือนกันเป๊ะ อ้าปากค้างเหมือนกันเป๊ะ ดิฉันเลยคิดมาก จิตตกตลอดมาว่า เพราะดิฉันทำบาปกับลูกหมาตัวนั้นใช่ไหม คุณพ่อถึงต้องมาสังเวยชีวิตเหมือนกับลูกหมาตัวนี้

ดิฉันเฝ้าโทษตัวดิฉันเองอยู่ตลอด ดิฉันเสียใจมาก ถ้าเป็นอย่างที่ดิฉันคิด ก็อยากให้บาปนั้นมาเอาตัวดิฉันไปแทนคุณพ่อจะดีกว่า มีใครบ้างโปรดช่วยแนะนำดิฉันให้ออกจากความเศร้าหมองนี้ที ขออนุโมทนาล่วงหน้า ขอบพระคุณค่ะ จาก คนโทษตัวเอง


ความคิดเห็น 12    โดย suwit02  วันที่ 8 ม.ค. 2552

ขอเชิญคุณ Hearthot อ่านความเห็นที่ 1 ครับ อีกประการหนึ่ง

พระศาสดาตรัสว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ ให้เลวและประณีตได้ หากคุณ Hearthot ได้กระทำกรรมใดๆ ไว้ วิบากย่อมมีแก่คุณเท่านั้น ไม่ส่งผลไปถึงผู้อื่นที่ไม่ได้รู้เห็น หรือพลอยยินดีไปกับคุณด้วย อย่าปล่อยให้ วันวาน ที่ผ่านพ้น ทำให้เรา ทุกข์ทนจนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิด อาจทำผิด ซ้ำลงไป ยิ่งเพิ่มวัน เสียใจ ไปอีกวัน คิดถึงใครที่จากไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศกุศลให้ผู้นั้นนะครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 13    โดย Sam  วันที่ 8 ม.ค. 2552

@ ในวัยเด็กผมยิงนกตกปลา ทำบาปโดยเจตนา และทำผิดพลาดด้วยความไม่ตั้งใจมากมาย ซึ่งหากจะนำทุกรายละเอียดมาเล่าสู่กันฟัง คงทำให้เหตุการณ์ที่คุณ suwatlmt และคุณ hearthot เล่ามาดูไม่รุนแรงเลยครับ แต่ผมอยากเสนอมุมมองที่ทำให้ชีวิตยังเบิกบานในพระธรรมได้มากกว่า ลองอ่านดูนะครับ

@ สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตน การอยู่หรือตายของสัตว์ใด ก็เป็นเพราะผลแห่งกรรมของสัตว์นั้นเป็นปัจจัย

@ เจตนาที่เป็นไปกับอกุศลเช่นความจงใจฆ่าผู้อื่นนั้น จะให้โทษกับผู้มีเจตนาเองในอนาคต ซึ่งหากผู้ที่ถูกเจตนาปองร้ายนั้น ไม่มีเหตุจากกรรมชั่วในอดีตมาเบียดเบียนแล้ว ใครจะตั้งใจทำร้ายอย่างไร เขาผู้นั้นย่อมปลอดภัยดี

@ เมื่อไม่มีเจตนาแล้ว ย่อมไม่ใช่กรรม (การจงใจทำร้าย) ซึ่งจะไม่เป็นปัจจัยให้ได้รับผลร้ายจากเหตุการณ์นั้น อย่างไรก็ดี การกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายด้วยการขาดความระมัดระวัง แสดงให้เห็นถึงการหลงลืมสติอันเป็นสภาพที่ไม่ดี ดังนั้น ควรใช้เหตุการณ์เช่นนี้เป็นเครื่องระลึกเพื่อความสำรวมระมัดระวังต่อไป

@ การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นผลจากการยังมีความรัก และเป็นความทุกข์ในชีวิตที่ทำให้เห็นภัยของสังสาวัฏฏ์ การเวียนเกิดเวียนตายของสัตว์ทั้งหลาย หากต้องการดับทุกข์นี้อย่างถาวร ควรศึกษาพระธรรมให้รู้ว่า ทุกข์นี้คืออะไร อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ สภาพดับทุกข์นี้คืออะไร และหนทางสู่ความดับทุกข์นี้เป็นเช่นไร

@ เมื่อค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ทำความเข้าใจพระธรรมไปเรื่อยๆ เมื่อมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น จะทำให้รู้สึกอัศจรรย์ใจกับความอาจหาญร่าเริงในปัจจุบัน กังวลกับอนาคตและรันทดกับอดีตน้อยลง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 14    โดย majweerasak  วันที่ 8 ม.ค. 2552

เรื่องราวเดียวกัน บางคนก็คิดด้วยกุศลวิตก บางคนก็คิดด้วยอกุศลวิตก จริงๆ แล้ว ขณะที่แต่ละคนกำลังคิดถึงเรื่องเดียวนั้น กุศลและอกุศลเกิดสลับกันเร็ว (จนยากที่จะแยกออก)


ความคิดเห็น 15    โดย พุทธรักษา  วันที่ 8 ม.ค. 2552

เมื่อค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ทำความเข้าใจพระธรรมไปเรื่อยๆ เมื่อมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น จะทำให้รู้สึกอัศจรรย์ใจกับความอาจหาญร่าเริงในปัจจุบัน กังวลกับอนาคตและรันทดกับอดีตน้อยลง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

ขออนุโมทนาคุณ K สำหรับคำสุภาษิตเตือนใจได้ดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ.

สำหรับข้าพเจ้า คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แม้อายุจะมากแล้ว เห็นสัตว์ที่รักตายไปต่อหน้าต่อตาก็หลายตัว ทั้งญาติที่รักยิ่งทั้งสองที่จากไปด้วย ความทุกข์ที่เกิด เพระความรักตัวเอง รู้สึกว่าสูญเสียของเรา จิตปรุงแต่งไปด้วยความโทมนัสต่างๆ นาๆ จากสิ่งที่คิดว่าเป็นของเรา ถ้าโทษคนอื่นไม่ได้ ก็โทษตัวเอง เพราะเข้าใจผิดว่ามีตัวเอง มีคนอื่นที่ทำให้เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ จนสุขภาพกายสุขภาพใจย่ำแย่ที่สุด ทั้งๆ ที่รู้ว่า สะสมความเศร้าหมอง ไม่มีประโยชน์กับใครเลย ก็ยังคิดไปได้

แต่การระลึกถึงที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ความจริง ไม่มีเรา ไม่มีใคร มีแต่ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย และบังคับบัญชาไม่ได้ด้วย เมื่อระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าบ่อยๆ ก็พอบรรเทาทุกข์ไปได้บ้าง แต่ปกติที่ยังประมาทอยู่ อกุศลธรรมที่เคยสะสมไว้มากก็พร้อมจะกลับมาได้ตลอด แม้ยังไม่สามารถเลิกการคลุกคลีได้เด็ดขาด ก็ยังต้องทุกข์ใจอยู่บ่อยๆ เป็นธรรมดา แต่ก็พอจะยังชีวิตให้อยู่ผ่านไปได้ไปวันๆ ก็ด้วยการระลึกถึง คำสอนของพระพุทธเจ้า จากการมีพระธรรมเป็นเครื่องอยู่ เท่าที่ปัจจัยจะอำนวย เท่าที่ปัญญาจะสามารถเข้าใจได้ ว่า ความจริง ก็เป็นอย่างนี้เอง ไม่ได้อย่างใจปรารถนา ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนแล้ว ว่า

วิสาขาสูตร .. ว่าด้วยรักมีเท่าไรทุกข์ก็มีเท่านั้น

ทั้งๆ ที่รู้ ก็ยังต้องเป็นเช่นนี้อยู่ คงเป็นเช่นนี้อีกนาน ความเข้าใจความเป็นจริง เท่านั้น ที่ทำให้อยู่ได้


ความคิดเห็น 16    โดย paderm  วันที่ 10 ม.ค. 2552

จากความเห็นที่ 11

กรรมของใครก็ของคนนั้นครับ กรรมที่บุคคลหนึ่งจะส่งผลให้อีกคนหนึ่งไมได้ คุณพ่อก็มีกรรมของคุณพ่อเองที่ทำไว้ สุนัขก็มีกรรมของเขาเอง สัตว์ทั้งหลายต่างก็มีกรรมเป็นของๆ ตน ความเศร้าโศกห้ามไม่ได้ แต่การทำความดี คือ การอุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อ และสุนัขที่เสียชีวิตดีกว่า ครับ

อนุโมทนา


ความคิดเห็น 17    โดย pornpaon  วันที่ 11 ม.ค. 2552

ทั้งๆ ที่รู้ ก็ยังต้องเป็นเช่นนี้อยู่ .... คงเป็นเช่นนี้อีกนาน ความเข้าใจความเป็นจริง เท่านั้น ที่ทำให้อยู่ได้

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 19    โดย hearthot  วันที่ 19 ม.ค. 2552

ขอบคุณ คุณsuwit02 และคุณ K

ขออนโมทนาบุญด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 20    โดย naniinan  วันที่ 20 เม.ย. 2554
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 10770 ความคิดเห็นที่ 2 โดย พุทธรักษา
เรื่องเกิดแล้ว ผ่านไปแล้ว ไม่เจตนา ความเสียใจที่เกิดจากเรื่องที่ ผ่านไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ แต่การจดจำเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เพื่อความระมัดระวังการกระทำใดๆ ในครั้งต่อๆ ไป มีประโยชน์ค่ะ. ชอบมากเลยค่ะ

ความคิดเห็น 21    โดย zxc123  วันที่ 10 ส.ค. 2556

ผมมีเรื่องจะถามครับ แล้วถ้าสุนัขเรากระดูกติดคอตาย แล้วเราพยายามช่วยแล้ว แต่ก็ไม่ได้ ผลจะบาปไหมครับ จะเป็นเวรกรรมไหมครับ


ความคิดเห็น 22    โดย Meili  วันที่ 26 เม.ย. 2560

ฉันก็เป็นอีกคนนึงที่รู้สึกผิดมากและเสียใจมากที่เลี้ยงหมาไม่ระวัง

ลูกหมาตัวนั้นเป็นพันธ์ุเล็กฉันเอามาเลี้ยงตอน 30 วันพอดี เลี้ยงจนน้องหมาแข็งแรง ร่าเริงกินปกติ มาได้อาทิตย์นึง ก็ปล่อยน้องเขาไปเล่นกับหมาโตบ้าง ปล่อยออกไปหลังห้องที่มีหญ้ารกๆ เพราะเห็นว่าแข็งแรง แต่ลืมไปว่าน้องเขายังเป็นหมาเด็ก ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน จนวันเกิดเหตุฉันไปข้างนอกกลับมาอยู่ๆ น้องเขากะนั่งซึมหายใจหอบผิดปกติฉันมาเจอเห็นนั่งอยู่ตรงหญ้ารกๆ มีซากหอยทากตายอยู่ข้างๆ 2 ตัว ตอนแรกเข้าใจว่ากินหอยแล้วเป็นพิษ กะเลย ป้อนไข่ขาวให้จนน้องอ้วก จากนั้นน้องก็หายใจหอบถี่ขึ้นกว่าเดิมเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง ก็เลยไปเปิดในเนต น้องมีอาการเหมือนปอดติดเชื้อ หรือปอดบวมหายใจหอบและถี่มาก ตอนนั้นคลีนิกทุกที่ก็ปิดหมดแล้ว ก็ต้องหยุคอยจับพลิกน้องให้อยู่ในท่าที่หายใจได้สะดวก แต่เหมือนอาการน้องเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ มีหายใจไม่ออกเป็นระยะๆ ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลย ต้มฟ้าทะลายโจรให้กินหวังฆ่าเชื้อ ป้อนได้นิดเดียวน้องก็อ้วกมาหมด ฉันเฝ้าดูอยู่ทั้งคืน ป้อนน้ำเป็นระยะๆ จนถึง 8.30 ฉันรีบนำน้องไปหาคลีนิกโรงบาลสัตว์เล็ก แต่ที่ไหนก็เปิด 9.00 บางที่เปิดแต่รอหมอ จนน้องทนไม่ไหวขาดใจซะก่อนระหว่างทาง ฉันรู้สึกผิดมากจริงๆ ที่ได้แต่มองดูน้องขาดใจตายต่อหน้าต่อตา เสียใจมากจริงๆ ที่ยิ่งพยายามช่วย แต่เหมือนกับทำให้น้องเขาตายเร็วขึ้น TT ฉันรู้สึกผิดมากจริงๆ


ความคิดเห็น 23    โดย yjsi.hsj  วันที่ 16 ม.ค. 2564

สวัสดีค่ะ พอดีสุนัขที่บ้านพึ่งคลอดลูกได้ 3 วัน แล้วเราออกไปข้างนอกประมาน 3-4 ชั่วโมงกลับมาลูกสุนัขออกมาอยู่พื้นกระเบื้องเย็นๆ เลยรีบเอาเข้าไปกกไฟเหมือนเดิม แล้วป้อนนมประมาน 2 ทุ่มครึ่ง จะเข้าไปป้อนนมอีกรอบ ปรากฏว่าลูกสุนัขตัวแข็ง ไม่หายใจแล้วค่ะ พยายามช่วยปั้มหัวใจก็กลับมา ดิ้นอยู่พักนึง สักพักก็นิ่งไปเลยค่ะ รู้สึกผิดมากๆ ที่ดูแลไม่ดี ถ้าไม่ออกไปข้างนอก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น

ปล. อยากทราบว่าเราจะบาปมั้ยคะ กรรมจะติดตัวรึปล่าว


ความคิดเห็น 24    โดย สิริพรรณ  วันที่ 16 ม.ค. 2564

สวัสดีค่ะ คุณ yjsi.hsj
ขอชวนให้คิดตามนะคะว่า รพ.มีคุณหมอ พยาบาล เครื่องมีอแพทย์ ทีมช่วยชีวิต ที่ได้รับการผึกอย่างชำนาญ และมีใจที่เมตตา กรุณา เสียสละเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วในรพ.มีคนเสียชีวิตหรือไม่คะ?

ถ้าท่านเหล่านั้น คิดกังวลในการสูญเสีย คิดโทษตนเองในสิ่งที่เขาพยายามอย่างดีที่สุด และเต็มกำลัง ก็คงไม่มีกำลังใจในการดูและผู้ป่วยอื่นๆ ต่อไป
การได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทำให้เข้าใจความเป็นไปของสภาพธรรมที่ต้องเกิดตามเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ แม้ความตาย ก็คือเพียงหนึ่งขณะจิตเท่านั้นที่เกิดเพราะกรรม ไม่มีใครตาย มีแต่จิตสุดท้ายที่เกิดขึ้นทำหน้าที่พ้นจากความเป็นบุคคลนี้ ในชาตินี้ ถ้ากรรมยังไม่ให้ผลที่จะต้องสิ้นสุดความเป็นลูกสุนัขตัวนั้น อย่างไรก็ไม่ตายค่ะ ดังนั้น ที่ลูกสุนัขนั้นตาย เพราะกรรมของเขาเอง เมื่อผู้เลี้ยงดู ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เขาตาย ก็ไม่เป็นปาปกรรมติดตัวในเรื่องนี้ เพราะขาดเจตนาค่ะ ความกังวลเป็นอกุศล ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ มีแต่โทษทำให้จิตเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส และเสียเวลา

ความจริงที่ไม่ควรลืม คือ ความตายไม่ได้มีเฉพาะลูกสุนัข ทุกชีวิตที่เกิดมา ถึงวันหนึ่งจิตสุดท้ายต้องเกิดขึ้นแน่นอน อาจเป็นพรุ่งนี้ ก็ได้ จึงควรใช้เวลาที่มีอยู่สะสมกุศล อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่ถ่ายทอดจากผู้ที่ศึกษาพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร ในสังสารวัฎฎ์ ลูกสุนัขนั้นเขามาจากไหนในชาติก่อนก็ไม่ทราบ อาจเคยเกิดเป็นมนุษย์ ส่วนมนุษย์ ก็ไม่สามารถเลือกได้ว่า ชาติต่อไป จะเกิดใหม่เป็นอะไร เพราะไม่ทราบว่า อกุศลกรรมในอดีตชาติที่ยาวนาน จะให้ผลเมื่อไร อย่างไร นี่คือความน่ากลัวของภัยในสังสารวัฏฏ์ฏ ถ้ากลัวกรรม ยิ่งต้องฟังพระธรรมค่ะ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 25    โดย chatchai.k  วันที่ 17 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 26    โดย chatchai.k  วันที่ 17 ม.ค. 2564

ข้อความบางตอน...

จากความเห็น 25

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่ถ่ายทอดจากผู้ที่ศึกษาพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา


ความคิดเห็น 27    โดย Natrada  วันที่ 1 พ.ค. 2566

เราเช่นกันค่ะสุนัขจรโรงเรียนสุนัขตัวนี้กลัวคนมากไม่เข้าใกล้คนให้อาหารมา2ปียังไม่ยอมให้เราใกล้ จนวันนึงมันโดนรุมกัด เราเฝ้าจับทุกวันเช้าเย็น จนวันที่6เราเรียกหน่วยกู้ภัย มายิงลูกดอกยาสลบ สรุปเค้าใช้ยาเกินขนาดจนทำให้สุนัขตาย เราเสียใจมากผ่านมา3วันแล้ว ยังไม่เลิกร้องไห้เลยถ้า ไม่เป็นเพราะเราดันทุรังจับเค้าคงอยู่ได้นานกว่านี้ และไม่แน่ใจว่าแผลเค้าจะหายได้เองไหม ถ้าไม่จับไปรักษา เราจะมูฟออนความรู้สึกนี้ได้ยังไง เรายังเป็นอะไรไม่ได้ เรามี หมาแมว อีกหลายตัวในบ้านและ ที่โรงเรียนต้องดูแล ครอบครัว แต่เราไม่เป็นอันจะทำอะไรเลย


ความคิดเห็น 28    โดย สิริพรรณ  วันที่ 3 พ.ค. 2566

สวัสดีค่ะ คุณNatrada

ขณะที่คิดถึงเรื่องอะไรก็ตาม เช่น เรื่องที่ผ่านไปแล้ว สภาพที่มีจริงคือ "คิด" แต่เรื่องที่คิดมีจริงหรือไม่?

การได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริง ซึ่งความจริงก็มีในชีวิตประจำวัน พร้อมให้ไตร่ตรองพิจารณาโดยอาศัยความเข้าใจที่ได้ฟังพระธรรม เมื่อประสบกับการจากไปของชีวิตใดๆ ก็ตาม เป็นเครื่องเตือนใจ เพราะวันหนึ่ง เราก็ต้องจากไปเช่นกัน แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เวลาที่ยังมีเหลืออยู่ ซึ่งไม่ทราบว่าจะเท่าไร มากหรือน้อย การได้สะสมสิ่งที่มีสาระในชาตินี้ คือการเข้าใจความจริงของสภาพธรรม เช่น ความคิด ความเสียใจ ความห่วงใย ที่กำลังเกิดขึ้น เป็นประโยชน์ เป็นสาระให้เข้าใจความจริงได้

เราก็ได้ยินคำว่า "ไม่มีเรา มีแต่ธรรม " และ "ธรรมเป็นอนัตตา" จนคุ้นชิน แต่เมื่อถึงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ในชีวิตจริง ก็ลืมคำเหล่านี้เสมอ จึงหวั่นไหวต่างๆ นาๆ แสดงให้เห็นว่าเราต้องฟังพระธรรมต่อไปค่ะ เพื่อสะสมเข้าใจในความเป็นธรรมที่บังคับบัญชาไม่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิ๊กที่

ธรรมะเป็นอนัตตา

ไม่มีเรา แล้วมีอะไร?

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 29    โดย chatchai.k  วันที่ 4 พ.ค. 2566

ขออนุโมทนาครับ