จากการที่ท่านผู้รู้กล่าวว่า ถ้าบุคคลใดทำกรรมดีไว้มากมายตอนมีชีวิต แต่ถ้าตอนใกล้ตายกลับมีจิตที่เศร้าหมอง ก็จะต้องไปเกิดทุคติภูมิ แต่ถ้าในทางตรงข้ามถ้าบุคคลนั้นทำกรรมไม่ดีไว้มากในช่วงมีชีวิต แต่ตอนใกล้ตายกลับมีจิตที่เป็นกุศล ก็จะได้ไปเกิดในสุคติภูมิ จึงอยากถามว่า
1. ถ้าตอนใกล้ตายเราทำจิตเป็นกลางว่างเปล่าคือทำจิตว่าง เราจะไปเกิดที่ภูมิไหน
2. จิตตอนใกล้ตายมีอะไรดลใจให้จิตในขณะนั้นเป็นจิตที่เบิกบานหรือเศร้าหมอง
๑. จิตเป็นกลางหรือจิตว่าง ...... ไม่มีครับ
๒. ไม่มีอะไรดลใจนอกจากกรรม คือ การกระทำที่เคยทำไว้ในกาลก่อน
จิตทุกขณะเกิดแล้วดับ บังคับไม่ได้ เป็นอนัตตา
พระพุทธองค์แสดงว่าธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา จิตเป็นสังขารธรรม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตที่เที่ยงและเป็นอัตตาไม่มี จิตทุกขณะเกิดแล้วดับทันที บังคับไม่ได้ จิตเมื่อเกิดที่ใดก็ดับที่นั้น เราจะทำจิตเป็นกลางว่างเปล่าได้อย่างไร ในเมื่อจิตเป็นสังขารธรรม ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ตามพุทธพจน์ที่นำมาแสดง ถ้าเข้าใจเรื่องจิต จะทราบว่าจิตว่างไม่ได้ จิตเมื่อเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยต้องรู้อารมรณ์ แม้ขณะหลับสนิทมีภวังคจิตเกิดดับสืบต่อกัน ภวังคจิตก็ไม่ว่าง
ส่วนเรื่องอารมณ์ใกล้ตายนั้น (มรณาสันนวิถี) จะเป็นอารมณ์เดียวกับปฏิสนจิตในชาติหน้า ก็จริง แต่ถ้าชาตินี้เราสั่งสมแต่อกุศลกรรมไว้มาก การที่จะให้กุศลจิตเกิดก่อนจุติจึงเป็นไปได้ยาก เพราะไม่มีเหตุปัจจัยให้สภาพธรรมนั้นๆ เกิด เรื่องของธรรมเป็นเรื่องของเหตุผลค่ะ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกันเสมอ
ถึงจะอยากไปแต่ที่ชอบ สุคติก็บังคับ หรือกำหนดไม่ได้จุติจากภพนี้ก็ไปตามกรรมนั่นเองวนเวียนไปตามเหตุปัจจัยสัตว์ทั้งปวงล้วนมีกรรมเป็นของตนๆ
ขอขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ที่ทำให้มีมุมมองใหม่ที่กว้างขึ้น เอาเป็นว่าทุกสิ่งมีกรรมเป็นตัวกำหนด ทำหน้าที่ของเราในวันนี้ให้ดีที่สุด อยู่กับปัจจุบัน
ทำตอนนี้เลย ถ้าทำได้......
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)