[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่มที่ ๔๒ - หน้าที่ ๑๙๓
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสพระคาถานี้ว่า “ถ้าบุคคลทราบว่า ตน เป็นที่รัก ก็พึงรักษาตนนั้น ให้เป็นอันรักษาด้วยดี, บัณฑิตพึงประคับประคอง (ตน) ตลอดยามทั้งสาม (ปฐมวัย,มัชฌิมวัย,ปัจฉิมวัย) ยามใดยามหนึ่ง” (พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องโพธิราชกุมาร)
ข้อความบางตอนจากอรรถกถา
ถ้าผู้เป็นคฤหัสถ์ ไม่อาจทำกุศลได้ในปฐมวัย เพราะความเป็นผู้หมกมุ่นอยู่ในการเล่นไซร้ ในมัชฌิมวัย พึงเป็นผู้ไม่ประมาทบำเพ็ญกุศล ถ้าในมัชฌิมวัย ยังต้องเลี้ยงบุตรและภรรยา ไม่อาจบำเพ็ญกุศลได้ไซร้ ในปัจฉิมวัย พึงบำเพ็ญกุศลให้ได้.ด้วยอาการแม้อย่างนี้ ตนต้องเป็นอันเขาประคับประคองแล้วทีเดียว แต่เมื่อเขาไม่ทำอย่างนั้น ตนย่อมชื่อว่า ไม่เป็นที่รัก ผู้นั้น (เท่ากับ) ทำตนนั้น ให้มีอบายเป็นที่ไปในเบื้องหน้าทีเดียว
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบขอบพระคุณและยินดีในกุศลค่ะ