ท่านพระราหุลได้บรรพชาเป็นสามเณร ไม่ทราบว่าได้บรรลุธรรมตั้งแต่ยังเป็นสามเณร หรือเปล่าครับ
[เล่มที่ 28] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 216
๘. ราหุลสูตร
ว่าด้วยสิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นก็เป็นทุกข์
[๑๘๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหลีกเร้นอยู่ในที่สงัด ทรงเกิดปริวิตกแห่งพระหฤทัยอย่างนี้ว่า ธรรมที่เป็นเครื่องบ่มวิมุตติของราหุลแก่กล้าแล้ว ถ้ากระไร เราควรแนะนำราหุลในธรรมเป็นที่สิ้นอาสวะยิ่งขึ้นไปเถิด ครั้นทรงพระดำริฉะนี้ แล้ว ในเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี ครั้นเวลาภายหลังภัตเสด็จกลับจากบิณฑบาตแล้ว ตรัสเรียกท่านพระราหุลมาตรัสว่า ราหุล เธอจงถือผ้านิสีทนะไปสู่ป่าอันธวันด้วยกัน เพื่อพักในกลางวัน. ท่านพระราหุลทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ได้ถือผ้า นิสีทนะตามเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าไปข้างหลัง ก็สมัยนั้น พวกเทวดาหลายพันติดตามพระผู้มีพระภาคเจ้าไปด้วยคิดว่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจักทรงแนะนำท่านพระราหุลในธรรมเป็นที่สิ้นอาสวะอันยิ่งขึ้นไป.
[๑๘๘] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปสู่ป่าอันธวันประทับ ณ พุทธอาสน์ที่พระราหุลปูลาดถวาย ที่ควงต้นไม้แห่งหนึ่ง ฝ่ายท่านพระราหุลถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสถานว่า ดูก่อนราหุล เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน จักษุเที่ยงหรือไม่เที่ยง ท่านพระราหุลกราบทูลว่า ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า. ฯลฯ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระสูตรนี้จบลงแล้ว ท่านพระราหุลชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า อนึ่ง เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่ จิตของท่านพระราหุลหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทานฝ่ายเทวดาหลายพันก็เกิดธรรมจักษุอันปราศจากธุลี ปราศจากมลทินว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา.
จบ ราหุลสูตรที่ ๘
อรรถกถาราหุลสูตรที่ ๘
บทว่า ธมฺมจกฺขุ ความว่า ในพระสูตรนี้ มรรค ๔ ผล ๔ พึงทราบว่า ธรรมจักขุ. จริงอยู่ในพระสูตรนั้น เทวดาบางพวก ได้เป็นพระโสดาบัน บางพวก เป็นพระสกทาคามี บางพวก พระอนาคามีบางพวก พระขีณาสพ อนึ่ง เทวดาเหล่านั้น นับไม่ได้ว่า มีประมาณเท่านี้. คำที่เหลือในบททั้งปวง ง่ายทั้งนั้น.
จบ อรรถกถาราหุลสูตรที่ ๘
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 273
ท่านตรัสราหุลสังยุต ตั้งแต่พระราหุลมีพระชนม์ได้ ๗ พรรษาจนถึงเป็นภิกษุยังไม่มีพรรษา. ท่านตรัสมหาราหุโลวาทสูตรในเมื่อพระราหุลเป็นสามเณรมีพระชนม์ ๑๘ พรรษา ท่านตรัสจุลลราหุโลวาทสูตรในเมื่อพระราหุลเป็นภิกษุได้ครึ่งพรรษา. ท่านตรัสกุมารกปัญหา และอัมพลัฏฐิกราหุโลวาทสูตรนี้ ในเมื่อพระราหุลเป็นสามเณรมีพระชนม์ ๗ พรรษา.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม...
มหาราหุโลวาทสูตร ทรงโอวาทพระราหุล
จูฬราหุโลวาทสูตร และ อรรถกถาราหุโลวาทสูตร
จูฬราหุโลวาทสูตร ทรงโอวาทพระราหุล และ อรรถกถาอัมพลัฏฐิกราหุโลวาทสูตร