โปรดอ่านข้อความจากอรรถกถาโดยตรง
เชิญคลิกอ่านได้ที่...
ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา
เชิญคลิกอ่านได้ที่...
พระตถาคตเป็นพระธรรม
[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 13
...เพราะฉะนั้น การเห็นด้วยจักษุ และการเห็นด้วยญาณ (ปัญญา) ก็ชื่อว่าเห็น เหมือนอย่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อน วักกลิ ประโยชน์ อะไรด้วยกายเน่าที่ท่านเห็นอยู่นี้. ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา. ผู้ ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม. เพราะฉะนั้น แม้ผู้ที่เห็นด้วยจักษุไม่เห็นอนิจจลักษณะเป็นต้น ที่พระอริยะทั้งหลายเห็นด้วยญาณ และไม่บรรลุธรรมที่พระ- อริยะบรรลุแล้ว พึงทราบว่าไม่เห็นพระอริยะ เพราะไม่เห็นธรรมอันกระทำความ เป็นพระอริยะ และไม่เห็นความเป็นพระอริยะ
ความเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้อยู่ที่พระสรีกาย ถ้าไม่มีพระธรรมพระ-พุทธองค์ก็เป็นเพียง เจ้าชายสิทธัตถะ แต่เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ และทรง เผยแพร่พระธรรมนำผู้สั่งสมกุศลบารมีมาควรแก่มรรคผลให้ได้รู้ตามและบบรลุตามเหตุ ปัจจัยที่ได้สั่งสมมา เพราะฉะนั้น พระธรรมจึงบ่งบอกถึงความเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ และประกาศพระธรรมเพื่อให้ชาวโลกได้รู้ และ ได้เห็นพระธรรม นำตนออกจากทุกข์แห่งวัฏฏสงสารได้ตามพระพุทธองค์ เพราะฉะนั้น
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
มรรคจิต ๔ ผลจิต ๔ และพระนิพพาน ๑ คือ โลกุตรธรรม ๙ ค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขออนุโมทนาครับ