สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค วิรัทธสูตร มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สติปัฏฐาน ๔ อันบุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งไม่ปรารภแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่า ไม่ปรารภอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังสัตว์ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ สติปัฏฐาน ๔ อันบุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งปรารภแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่า ปรารภอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังสัตว์ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน ก็ได้แก่ กาย เวทนา จิต ธรรม
ในสูตรนี้ ไม่ได้กล่าวถึงสถานที่ และไม่ได้กล่าวให้เจริญเพียงสติปัฏฐานเดียว แต่ทรงแสดงว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สติปัฏฐาน ๔ อันบุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งไม่ปรารภแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่า ไม่ปรารภอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังสัตว์ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ
โดยนัยตรงกันข้าม สติปัฏฐาน ๔ อันบุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งปรารภแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่า ปรารภอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังสัตว์ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ
เพราะฉะนั้น ก็แล้วแต่จะระลึกที่กาย หรือว่าเวทนา หรือว่าจิต หรือว่าธรรม ในสถานที่ใด เป็นสติปัฏฐานทั้งสิ้น ถ้าในขณะนั้นท่านรู้ว่าเป็นลักษณะของนามธรรมหรือว่าเป็นลักษณะของรูปธรรม จะกล่าวว่าในขณะนั้นไม่ใช่การเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ ไม่ได้ และไม่มีใครทราบว่า จะสิ้นชีวิตลงเมื่อใด ไม่มีใครรู้ได้จริงๆ เลย เพราะฉะนั้น คงจะไม่ลืมพระปัจฉิมโอวาสใน ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร ซึ่งมีข้อความว่า
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ไม่ได้เว้นขณะไหนเลย ควรที่สติจะระลึกรู้ลักษณะของสังขารที่กำลังปรากฏแล้วก็ดับไป จึงจะชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท และก็เป็นผู้ที่เจริญสติปัฏฐาน เจริญอริยมรรคมีองค์ ๘
ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 125