ขอเรียนถามด้วยคะ
ดิฉันได้เรียนการปฏิบัติธรรมจากฆราวาสท่านหนึ่งที่สอนผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดบรรยายมาระยะหนึ่งแล้วพบว่าแก้ทุกข์ไม่ได้ และคำสอนเริ่มแปลกๆ กล่าวตำหนิคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ หลายท่านที่เป็นที่รู้จัก จึงเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เป็นคนไม่ค่อยรู้คำสอนพระพุทธเจ้าที่ชัดเจนมาก่อน จนระยะหลังมาศึกษาทำความเข้าใจจากครูบาอาจาร์ท่านอื่นๆ ทีอธิบายคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างละเอียดจนเกิดความเข้าใจมากขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าดิฉันเองเข้าใจท่านผู้สอนนี้ผิดรึเปล่า เนื่องจากปัญญาทางธรรมยังน้อยนิด และไม่อยากให้เป็นการปรามาสสงสัยครูผู้สอนหากท่านสอนถูก
วันนี้ดิฉันเรียนขอความช่วยเหลือจากท่านผู้รู้จากเวบนี้ ช่วยเปิดทางสว่าง และความเข้าใจให้ดิฉันด้วยคะ
กราบของพระคุณเป็นอย่างสูงคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-มรรคมีองค์ ๘
ขอให้ตั้งต้นใหม่จริงๆ กับการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก่อนอื่นก็ต้องแปลคำว่า มรรค ก่อนว่า มรรค หมายถึง หนทาง ซึ่งมีทั้งทางถูกกับทางผิด ถ้าเป็นหนทางที่ถูกต้องเป็นไปเพื่อการอบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสจนกว่าจะดับได้อย่างหมดสิ้น ก็เป็นหนทางที่ถูกต้อง (สัมมามรรค,อริยมรรค) เริ่มต้นด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ) เป็นต้น แต่ถ้าเป็นหนทางที่ผิด ที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา มีแต่จะทำให้อกุศลเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับหนทางที่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง นั่นเป็นมิจฉามรรค อันมีพื้นฐานมาจากความเห็นผิดและความไม่รู้
ดังนั้น ถ้าเป็นอริยมรรค อันประกอบด้วยองค์ ๘ แล้ว ย่อมเป็นหนทางถูก เป็นหนทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อกำจัดกิเลส เป็นหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์ หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลายกว่าจะถึงความเป็นพระอริยบุคคล ก็ต้องเป็นปุถุชน แต่เป็นปุถุชนที่สะสมเหตุที่ดีมาเห็นประโยชน์ของพระธรรม เห็นประโยชน์ของความเข้าใจถูกเห็นถูก จึงมีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา ซึ่งจะแตกต่างไปจากปุถุชนที่ไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรม อย่างสิ้นเชิง
การที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสได้ตามลำดับขั้นนั้น ต้องดำเนินตามหนทางที่ถูกต้อง คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ เท่านั้น ซึ่งก็ต้องเริ่มตั้งแต่ในขั้นของการอบรม ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ในขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ขณะนั้นมรรคมีองค์ ๕ กล่าวคือสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ เกิดขึ้นพร้อมกันเป็นการอบรมมรรค อันเป็นโลกิยมรรค ยังไม่ถึงขั้นที่เป็นโลกุตตระ เพราะมรรคทั้ง ๘องค์จะประชุมพร้อมกันในขณะที่มรรคจิต ผลจิตเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่เดินทางตามที่ถูกต้องแล้ว ก็ย่อมไม่มีวันถึงขณะที่มรรคจิตและผลจิต จะเกิดได้เลย
-สำรวมอินทรีย์
จะต้องมีความมั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรม ว่าเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น บังคับให้เกิดขึ้นเป็นไปตามใจชอบไม่ได้ แต่เกิดเพราะเหตุปัจจัย
อินทรีย์ในที่นี้ หมายถึง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ปกติในชีวิตประจำวัน เมื่อมีตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจจึงมีการรู้อารมณ์ต่างๆ ทางทวารต่างๆ มีจิตเกิดขึ้นเป็นกุศลบ้าง เป็นอกุศลบ้างตามการสะสม หลังเห็น หลังได้ยิน เป็นต้น และโดยภาวะของความเป็นปุถุชนแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดก็ตาม อกุศลจิตย่อมเกิดขึ้นมากกว่ากุศล เมื่อเป็นเช่นนี้ ขณะที่ไม่สำรวม หรือขณะที่ไม่สังวร จึงมีมาก เพราะอกุศลเกิดมากทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และ ทางใจ แต่ที่จะเป็นอินทรีย์สังวร การสำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้นั้น ต้องเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา ที่มีการระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะประสบกับอารมณ์ใดๆ ทางทวารต่างๆ ใน ๖ ทวาร ขณะนั้นสติและปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตามความเป็นจริง เป็นการปิดกั้นไม่ให้อกุศลเกิดขึ้น
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า อินทรีย์สังวร หมายถึง สำรวมทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งก็คือสำรวม ด้วยสติที่ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามปกติตามความเป็นจริง ไม่ใช่การจงใจที่จะไปยืนสำรวม ไปเดินสำรวม แต่ไม่ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎตามปกติตามความเป็นจริง อินทรีย์สังวร เป็นกุศลธรรม เป็นธรรมฝ่ายดีที่เกิดขึ้นเป็นไป ขณะนั้นมีความเป็นปกติที่เป็นกุศลระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง กุศลจิตเกิดขึ้นประกอบด้วยโสภณธรรมต่างๆ มีศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ เป็นต้น รวมถึง ปัญญา ด้วย เป็นกุศลแล้วในขณะนั้น อันมีพื้นฐานความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริง จากการได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ครับ
ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ธรรมะที่เป็นหนทาง
มรรคมีองค์ ๘
มรรคมีองค์ ๘ เริ่มต้นอย่างไรครับ
มรรคมีองค์ ๘ นั้นคืออะไร เหมือนกับสติไหม
อินทรียสังวร
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
สาธุ ได้รับความเข้าใจและคำตอบที่ชัดเจนยิ่ง
เพราะเหตุนี้เองที่เราจึงต้องศึกษาและทำความเข้าใจในคำสอนขององค์สัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประทานไว้ให้ชาวพุทธได้เดินอย่างตรงทาง
กราบขอบพระคุณคุณ Khampan ในคำตอบและคำแนะนำคะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ
เคยไปเรียนกับฆราวาสท่านหนึ่ง สอนทางบล็อกและมีเปิดคอร์สด้วยค่ะ แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ สอนว่าเห็นจิตเป็นดวงๆ ทางตาเนื้อค่ะ (จิตเป็นนามธรรม จะเห็นเป็นดวงๆ ได้อย่างไร) หลังจากศึกษาธรรมก็ไม่ได้ไปอีกค่ะ ขอให้ศึกษาธรรมต่อไปๆ ๆ นะคะ ขออนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาด้วยค่ะ คุณ Thilda
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ