จากข้อความในหนังสือปรมัตถธรรมสังเขป โมหมูลจิต คือ จิตที่เกิดร่วมกับโมหเจตสิก ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่หลง ไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมทั้งหลาย โมหมูลจิตมี ๒ ประเภท คือ
ดวงที่ ๑ อุเปกฺขาสหคตํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ โมหมูลจิตเกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา ประกอบด้วยความสงสัย (วิจิกิจฉาเจตสิก) ในความจริงของสภาพธรรมทั้งหลาย
ดวงที่ ๒ อุเปกฺขาสหคต อุทธจฺสมฺปยุตฺตํ โมหมูลจิตเกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา ประกอบกับความฟุ้งซ่าน (อุทธัจจเจตสิก)
ขอเรียนถามท่านวิทยากรว่า...
1. เหตุใดโมหมูลจิตจึงไม่มี อสังขาริก สสังขาริก เหมือนกับ โลภมูลจิต โทสมูลจิตมหากุศลจิต มหากุศลวิบากจิต มหากิริยาจิต ครับ
2. นอกจากจิตที่กล่าวข้างต้น (สีเขียว) จิตอื่นๆ ที่มี อสังขาริก สสังขาริก ยังมีอีกไหมครับ
ขอขอบพระคุณในคำตอบครับ
๑. สภาพของโมหมูลจิต ต่างกันเป็นอุทธัทธจสัมปยุตและวิจิกิจฉาสัมปยุต อนึ่ง โมหะเป็นสภาพไม่รู้ หรือ หลง ความหลงจึงไม่มีความต่างว่าถูกชักชวนและไม่ถูกชักชวน ในคัมภีร์รุ่นหลังสงเคราะห์โมหมูลจิตเป็นประเภทอสังขาริกคือ เกิดขึ้นเองโดยไม่ถูกชักชวน
๒. นอกจากประเภทของจิตที่กล่าวแล้ว ในพระบาลี อรรถกถา อภิธรรมมัตถสังคหะไม่ได้แสดงความต่างของจิตโดยความเป็นอสังขาริกและสสังขาริก แต่ในคัมภีร์รุ่นหลังได้สงเคราะห์ อเหตุกจิต ๑๘ เป็นจิตประเภทอสังขาริกและสงเคราะห์ มหัคคตจิต ๒๗ โลกุตตรจิต ๘ เป็นจิตประเภทสสังขาริก ก็มี
โมหมูลจิต เป็นความไม่รู้ ไม่ต้องมีการชักชวนก็เกิดเองค่ะ เช่น เราโง่เอง ไม่มีใครชวนเราก็โง่แล้ว โง่ที่ไม่รู้จักธรรมะ แถมยังถูกปิดบังอีกนะ ต่างกับปัญญาต้องอบรมเจริญจึงจะเกิดค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ