ข้อความบางตอนจาการสนทนาธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ..
เพราะการที่จะเป็นผู้มีเมตตาได้ตลอดไปคือ ไม่มีโทสะ เกิดอีกเลยนั้น ต้องเป็นพระอริยบุคคลขั้นพระอนาคามีบุคคล และการที่ผู้ใดจะมีเมตตาเพี่มขึ้น มากขึ้นได้ ก็เป็นเพราะผู้นั้นอบรมเจริญปัญญารู้ว่า สภาพธรรมที่ยึดถือว่าเป็น สัตว์บุคคลตัวตนนั้นเป็นแต่เพียงนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งสมมติ บัญญัติ เรียกชื่อไปตามอาการที่ปรากฏต่างๆ กันเท่านั้น แต่โดยลักษณะที่แท้จริงแล้วเป็นสภาพธรรม แต่ละประเภทที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไป สืบต่อกันอยู่เรื่อยๆ
การกระทำ ไม่ว่ามากหรือน้อย เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น การที่จะมีเมตตา มีได้ทุกขณะเลย ในขณะที่ไม่รู้สึกโกรธ หรือว่าไม่รู้สึกขุ่นเคืองใจ
เพราะฉะนั้น วันหนึ่งๆ ที่จะรู้ว่าตัวเองมีเมตตาเพี่มขึ้นหรือเไม่ ก็จะสังเกตได้ว่า ขณะใดที่โกรธ ขณะนั้นไม่มีเมตตา ขณะใดที่ขุ่นเคืองใจ แม้เพียงเล็กน้อย ขณะนั้นก็ไม่มีเมตตา ถ้ารู้ตัวอย่างนี้ ความโกรธก็จะลดลง แล้วเมตตาก็จะเพี่มขึ้น แต่ว่าถ้าจิตใจของเราทุกคน เป็นเพื่อนกับคนอื่น อย่างที่ทราบแล้ว ก็คือเป็นผู้มีเมตตา แล้วก็ใครคิดที่ จะเจริญเมตตาจริงๆ ก็ไม่ยากเลย คือไม่ต้องท่องเลย เพียงแต่ว่าให้ช่วยเหลือคนอื่น เป็นมิตรกับคนอื่น แล้วก็สังเกตเวลาที่เกิดความขุ่นเคืองใจบุคคลใด ก็แสดงว่าขาดเมตตาต่อบุคคลนั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
คือไม่ต้องท่องเลย เพียงแต่ว่าให้ช่วยเหลือคนอื่น เป็นมิตรกับคนอื่น
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
การที่จะมีเมตตา มีได้ทุกขณะเลย...
ขออนุโมทนาค่ะ
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา
"เวลาที่เกิดความขุ่นเคืองใจบุคคลใด ก็แสดงว่าขาดเมตตาต่อบุคคลนั้น"
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
เมตตาก็มีหลายระดับขั้น ...ถ้าจะเอา เมตตาจริงๆ ก็ยากครับ
ส่วนใหญ่ ก็กลายเป็นความอยากช่วย เพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงลึกๆ ถ้าไม่สังเกตจริงๆ ก็หาไม่เจอ ...เช่น ต้องการผลตอบแทน ต้องการให้เขารักชอบพอเรา ไม่เกลียดเรา ต้องการบุญกุศล ฯลฯ
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ควรทำไปเถอะ อะไรก็ได้ ที่เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น มันดีทั้งนั้น , ทุกอย่างมันจะเป็นไปตามการสะสม จิตใจจะละเอียดขึ้นเอง แล้วปัญญาจะเจริญขึ้นเองตามลำดับขั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
นอกจากเจริญเมตตาแล้ว ท่านเจริญกุศลในด้านใดบ้างครับ สำหรับผมนั้น บางครั้งเมตตาไม่เกิดเลย เกิดโลภะบ้าง เกิดราคะบ้าง คิดถึงคนนั้นคนนี้ สิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นเรื่องเป็นราว ด้วยความติดข้อง คือผมมีวิตกจริต ราคะจริต โมหะจริต และจริตอื่นๆ ก็เกิดด้วยครับ จะเจริญเมตตาอย่างไรครับ หรือหากเจริญกุศลในด้านอื่นๆ มีอุบายที่แยบคายอย่างไร กุศลเจริญเพียงใด อาจจะเป็นประโยชน์
ขอคำบอกเล่าและหรือคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
เรียน ความเห็นที่ 15
เมตตาคือความหวังดี ความเป็นมิตรทั้งทาง กาย วาจาและใจ เมตตาจะเจริญขึ้นได้ ต้องมีเหตุครับ นั่นคืออาศัยการฟังพระธรรม ในเรื่องของเมตตา ในเรื่องโทษของโทสะประโยชน์ของขันติ เป็นต้น ทุกอย่างต้องอาศัยเหตุปัจจัย แต่จะเกิดขึ้นมากเลยเป็นไป ไม่ได้เพราะเราสะสมกิเลสมามากครับ อย่างไรก็ดีที่มูลนิธิมีแผ่นเรื่องเมตตา ซึ่งมีเรื่องพระสูตรดีดีเกี่ยวกับเรื่องเมตตา รวมทั้งคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ที่ได้อธิบายเรื่องเมตตาไว้ดีมากครับ การฟังพระธรรมเมื่อเข้าใจขึ้น เมตตาจะเจริญขึ้นแต่ทีละน้อย เสาร์ อาทิตย์ไหนคุณ Thirachat.P จะนำแผ่นเรื่องเมตตาให้ครับ
อนุโมทนา
ไม่ยากเลยจริงๆ ...พร้อมที่จะช่วยเหลือ เกื้อกูลบุคคลอื่น ขณะนั้นก็มีเมตตาแล้ว
...กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ...
ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณเผดิม สำหรับแผ่นเรื่องเมตตา
และกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาดัวย
ขออนุโมทนาครับ