พระพุทธศาสนาไม่ได้จำกัดสงเคราะห์แต่เฉพาะญาติ
โดย สารธรรม  13 ก.ย. 2565
หัวข้อหมายเลข 43824

(ญาติปลิโพธ)

พระพุทธศาสนาไม่ได้จำกัดที่จะสงเคราะห์แต่เฉพาะญาติ ไม่ให้ละเลยการสงเคราะห์ญาติ พระผู้มีพระภาคทรงให้อนุเคราะห์สัตว์โลก ไม่ใช่แต่เฉพาะพระญาติ แม้แต่พระสงฆ์สาวกก็เหมือนกัน ไม่ได้อนุเคราะห์แต่เฉพาะบุคคลผู้เป็นญาติเท่านั้น แต่ขณะใดที่ท่านสามารถจะสงเคราะห์ญาติได้ โดยฐานะของความเป็นญาติ ท่านก็ไม่ละเลยโอกาสเหมือนกัน

อย่างท่านพระสารีบุตร ท่านกลับไปปรินิพพานเพื่อแสดงธรรมอนุเคราะห์มารดาของท่าน แม้มารดาในอดีตชาติก่อนๆ ของท่าน ก็ปฏิสนธิเป็นเปรตที่หิวกระหาย ท่านก็ได้ให้ทานแล้วอุทิศส่วนกุศล อนุเคราะห์มารดาในอดีตของท่านด้วย

การสงเคราะห์ญาตินี้ สงเคราะห์ทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และก็ในขณะที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้าสามารถกระทำได้ ก็เป็นการเจริญกุศลทั้งของบุคคลนั้นเอง และสำหรับญาติด้วย แต่ไม่ใช่ว่าให้สงเคราะห์แต่เฉพาะญาติ

ขุททกนิกาย เปตวัตถุ สังสารโมจกเปตวัตถุ ข้อ ๙๘ มีข้อความที่ท่านพระสารีบุตรอนุเคราะห์นางเปรตตนหนึ่ง นางเปรตตนนี้ ได้ขอให้ท่านพระสารีบุตรอุทิศส่วนอกุศลให้

เพราะเมื่อครั้งที่นางเกิดเป็นมนุษย์นั้น ชนเหล่าใดเป็นบิดาก็ดี มารดาก็ดี หรือแม้เป็นญาติ ผู้มีจิตเลื่อมใสที่จะชักชวนให้นางให้ทานแก่สมณพราหมณ์ทั้งหลายนั้น ไม่มีเลย เพราะฉะนั้น เมื่อจุติ คือ สิ้นชีวิตแล้ว ด้วยอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ ทำให้ปฏิสนธิเป็นเปรต เปลือยกาย ถูกความหิวความกระหายเบียดเบียน แต่นางมีจิตเลื่อมใสในท่านพระสารีบุตร นางได้มาไหว้ท่านพระสารีบุตร และขอให้ท่านพระสารีบุตรอนุเคราะห์ด้วยการให้ทานและอุทิศกุศลให้

ซึ่งท่านพระสารีบุตรก็รับคำ แล้วได้ถวายข้าวคำหนึ่ง ผ้าประมาณเท่าฝ่ามือผืนหนึ่ง พร้อมทั้งน้ำดื่มขันหนึ่งแก่ภิกษุรูปหนึ่ง และอุทิศส่วนบุญให้แก่นางเปรตตนนั้น ภายหลังนางเปรตตนนั้นก็ได้ปฏิสนธิเป็นเทพธิดา เข้าไปไหว้ท่านพระสารีบุตร แสดงผลแห่งทักษิณา คือ การอุทิศส่วนกุศลให้

ก็เป็นเรื่องที่อนุเคราะห์ไม่ใช่แต่เฉพาะญาติ อนุเคราะห์ทั่วไปหมด เพราะฉะนั้น เรื่องของญาติก็มีกล่าวไว้ทั้งในพระวินัย ในพระสูตร ที่จะต้องสงเคราะห์ตามควรตามฐานะ แต่ไม่เป็นเครื่องขัดขวางการเจริญสติปัฏฐานเลย


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา 60