ผมรู้สึกเศร้า รู้สึกหมดความกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต หลังจากที่ได้รับฟังธรรมะ ที่มีเนื้อหา เกี่ยวกับ "การไม่มีเรา มีแต่ธรรมะที่ปรากฏ" ผมไม่รู้จะดิ้นรนขวยขวายให้เหนื่อยทำไม ในเมื่อทำไปก็เพื่อสนองความต้องการให้ตัวเอง เป็นการสร้างอกุศลแก่ให้จิต ตอนนี้ ผมคิดแค่ว่า ใช้ชีวิตเพื่อชดใช้กรรมไปวันๆ ฟังแต่ธรรมะ ระวังอกุศลมากขึ้น รู้สึกชีวิตโหวงๆ หดหู่ใจบ่อยๆ ผมควรทำอย่างไรดี ครับ ให้กลับมามีพลังในการใช้ชีวิต เหมือนเมื่อก่อน ก่อนที่รับฟังธรรมะครับ
แต่ก็ยอมรับครับว่า ชีวิตมีความสุขมากขึ้น ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น มองหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ว่า ไม่มีเรา มีแต่ รูป จิต เจตสิก ที่ทำกิจอยู่เท่านั้น แต่มีความหดหู่เกิดขึ้นบ่อย เมื่อคิดถึงว่า ร่างนี้ ใจนี้ ไม่ใช่เรา (หรือผมกำลังเสียดาย ชีวิต ยังมีความอยากมี ร่างนี้ ใจนี้อยู่ เพราะปัญญายังไม่พอ)
เป็นความเบื่อ หดหู่ที่เป็นโทสะ ซึ่งไม่ใช่ปัญญา ซึ่งหนทาง คือ ฟังพระธรรมต่อไป ครับ ไม่ว่าวันไหนๆ แม้เพียงชั่วขณะจิตนี้ มีธรรมอะไรเกิดขึ้นเป็นปกติ คือ อกุศลเป็นปกติโดยมาก ผู้ที่เข้าใจถูกเช่นนี้ ที่มีจากการฟัง ศึกษาพระธรรม จึงเห็นประโยชน์ของการศึกษา อบรมปัญญาเพื่อเข้าใจถูก ในสภาพธรรมทีเ่กิดแล้วในชีวิตประจำวัน ว่าไม่ใช่เรา และเจริญกุศลทุกๆ ประการตามเหตุปัจจัยที่กุศลจะเกิด โดยเบาสบายที่จะไม่ไปจัดการ จะทำ จะน้อม เข้ามาในวันไหน เพราะวันไหนๆ ก็คือ ขณะเพียงจิตเกิดทีละขณะ และเป็นไปตามเหตปัจจัยไม่ใช่เรา ครับ
ขอให้กำลังใจนะคะ ต่อสู้กับความไม่รู้ค่ะ
สาธุ ขอบพระคุณครับ กระจ่างเลยครับ มีอกุศลเกิดขึ้นนี้เอง ฟังธรรมะ จากคำพระพุทธเจ้าต่อไปครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตั้งต้นด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ เป็นธรรมดาที่อกุศลจิตจะเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ตราบใดที่ยังไม่สามรถดับกิเลสอะไรๆ ได้เลย แต่ความเข้าใจพระธรรมจะช่วยให้ค่อยๆ ขัดเกลายิ่งขึ้นได้ เมื่อมีความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้น เห็นโทษของอกุศล เห็นคุณของกุศล จึงไม่มีใครสามารถทำลายหรือขจัดอกุศลของตนเองได้เลย นอกจากตนเองจะเป็นผู้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจแล้วปัญญาจะทำให้มีการขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น เป็นไปได้ด้วยปัญญาจริงๆ ความเข้าใจพระธรรม จะนำพาชีวิตไปสู่ทางที่ดี ที่ถูกที่ควรยิ่งขึ้น เพราะขณะที่เข้าใจ ขณะนั้น ไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อน ไม่หดหู่ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับผม
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ถ้ามีปัญญาจริงๆ จะไม่หดหู่ เพราะว่าคนที่มีปัญญาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีความสุข ปัญญารู้ว่าอะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล ปัญญาทำหน้าที่เว้นอกุศล เจริญกุศล ที่สำคัญปัญญาก็รู้ว่าแม้กุศล หรืออกุศล ก็เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง แต่ละอย่าง ไม่ใช่เราค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ความหดหู่ก็เป็นธัมมะครับ เกิดแล้วดับแล้วเหมือนกันครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ