ถ้าจะหมดวิบากกรรม คือ ต้องรับวิบากจากนรก มาเป็น สัตว์เดรัจฉานถูกตอน มาเป็นกะเทย มาเป็นเกย์ มาเป็นหญิงโสเภณี ถึงมาเป็นชาย ผมเข้าใจถูกไหมครับ แล้วชาตินี้ยังสะสมผิด เช่น ยังชอบหรือมีแฟนเพศเดียวกัน จะสะสมถึงชาติหน้าไหมครับ ชาติหน้ายังต้องเป็นอีกหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรื่องของศีล เป็นเรื่องของความประพฤติเป็นไปทางกาย วาจา ซึ่งจะต้องมาจากจิตใจ การพิจารณาความถูกต้องตรงตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น จะต้องเป็นผู้มีความละเอียดจริงๆ
สำหรับประเด็นศีลข้อการประพฤติผิดในกามนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก และจะต้องพิจารณาองค์ประกอบของการล่วงศีลข้อดังกล่าวนี้ด้วย การที่จะล่วงศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร (การประพฤติผิดในกาม) นั้น ต้องเป็นเพราะมีเจตนาก้าวล่วงและมีการประพฤติผิด คือ ในกรณีที่ฝ่ายชายเป็นผู้ล่วงศีล ต้องมีการประพฤติผิดในหญิงที่มีสามี หรือหญิงที่มีผู้ปกครองคอยรักษา ส่วนในกรณีที่ฝ่ายหญิงเป็นผู้ล่วงศีลต้องมีการประพฤติผิด คือ นอกใจสามีของตน ไปมีชายคนอื่นในขณะที่ตนเองยังมีสามีอยู่ แต่ถ้ามีการตกลงกันว่าจะเลิกกันจริงโดยไม่เกี่ยวข้องกันอีก ถ้าฝ่ายชายไปมีหญิงอื่นด้วยการกระทำที่ถูกต้องมีการสู่ขอจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง จะเป็นผู้หญิงกี่คนก็ตาม ย่อมไม่ผิดศีลข้อดังกล่าว นี้ [ถ้าไม่กระทำให้ถูกต้อง อย่างไรก็ต้องผิด] ถึงแม้จะยังไม่เลิกกันถ้าฝ่ายชายไปมีหญิงอื่น ด้วยการกระทำที่ถูกต้องด้วยการสู่ขอจากบิดามารดา ฝ่ายชายก็ไม่ผิดศีลข้อนี้ แต่ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นภรรยาจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้ เนื่องจากว่าสามีเป็นเจ้าของผัสสะของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาอย่างละเอียดจริงๆ และ ที่ดีที่สุด คือไม่ล่วงศีล ไม่ประพฤติทุจริตกรรม พึงหลีกเลี่ยงในสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ เพราะเป็นเหตุนำมาซึ่งความเดือดร้อนใจในภายหลัง
ซึ่งการรักชอบเพศเดียวกัน ไม่ผิดศีลข้อสาม เพราะการผิดศีลข้อสามต้องเป็นเพศตรงกันข้ามเท่านั้น ครับ ส่วนวิบากโดยตรงของการผิดศีลข้อ 3 คือ ตกนรก และไปอบายภูมิ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ก็พิการ ไม่มีเพศ หรือ มีศัตรูมาก ครับ ซึ่งหนทางการพ้นจากการล่วงศีล คือ การอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรม จนดับกิเลสถึงความเป็นพระอริยบุคคล ย่อมไม่ล่วงศีลอีกเลย ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความติดข้อง ต้องการ เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัยตามการสะสมของแต่ละบุคคล ขณะที่ติดข้อง เป็นอกุศล ไม่ใช่วิบาก แต่ถ้าเป็นผู้ประมาทมัวเมา ไม่เห็นโทษเห็นภัย เมื่อสะสมมากขึ้นๆ ก็อาจจะเป็นเหตุให้ล่วงศีลข้อต่างๆ ได้ไม่ใช่เฉพาะข้อการประพฤติผิดในกามเท่านั้น เมื่อได้กระทำเหตุที่ไม่ดีแล้ว ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เกิดผลที่ไม่ดีในภายหน้าได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ทางที่ดีที่สุด คือ ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ความเข้าใจพระธรรมนี้แหละจะเป็นเครื่องนำทางชีวิตที่ดี ให้กระทำในสิ่งที่ถูกที่ควร เท่านั้น ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
กุศลจิต หรือ อกุศลจิต เกิดดับสืบต่อกันไม่สูญหายไปไหน สะสมไปทุกชาติ ทั้งฝ่ายดีและไม่ดี และ ชาตินี้จะเป็นอดีตของชาติหน้า จึงไม่ควรประมาทในการฟังธรรมและทำความดีค่ะ
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุคะ่
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ