ขณะที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ บุคคลนั้นจะมีความรู้สึกอย่างไร
ขณะที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ บุคคลนั้นมีเวทนา คือความรู้สึก ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ โสมนัสเวทนา ๑ อุเบกขาเวทนา ๑
แสดงว่า การมีนิพพานเป็นอารมณ์ ก็ไม่เที่ยง แล้วพระนิพพานเที่ยงหรือไม่
จิตที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ ไม่เที่ยง แต่พระนิพพานไม่เกิดดับ (เที่ยง)
ขออนุโมทนาครับ
ขณะที่มีนิพานเป็นอารมณ์ บุคคลนั้นจะมีความรู้สึกอย่างไร คงเคยได้ยินพุทธพจน์ที่ว่า นิพพานนัง ปรมังสุขขัง คือ นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่งนะครับ นิพพาน เป็นโลกุตตรธรรม ไม่มีเวทนา หรือไม่มีสุขเวทนา เพราะไม่มีเวทนา ไม่มีอะไรเลยจึงสุขอย่างยิ่ง สุขที่อิงอามิส คือ สุขที่อาศัยกาม คือ รูป รส กลี่น เสียง สัมผัส ยังสุขน้อยกว่าสุขที่ไม่อิงอามิสคือ สุขที่ไม่อาศัยกาม เช่น สุขในฌาณ ในพระนิพพานเลย สุขในพระนิพพาน เป็นสุขที่ ไม่อิงอามิสด้วย และจากการหมดวัฎฎะ จึงเป็นสุขอย่างยี่ง บุคคลนั้นจะมีโสมนัสสเวทนา หรืออุเบกขาเทนา ก็ได้ ครับ
นิพพาน แปลว่าปราศจากกิเลสเป็นเครื่องรัอยรัด นิพพานเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน
นิพพานเที่ยงและเป็นสุขอย่างยิ่ง
แม้จะกล่าวว่า เป็นสุขมากมายอย่างไร แต่การไปถึงนิพพานก็ด้วย การอบรมมรรคมีองค์ ๘ และสติปัฏฐานเท่านั้น กิจที่ควรทำคือ การเข้าใจว่าอะไรเป็นธัมมะ และการจะเข้าถึงสภาพธัมมะ คืออย่างไร นี่เป็นเบื้องต้นของการที่จะไปถึงนิพพาน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องไกล แม้จะบรรยายอย่างไร ก็คิดนึกเดาเอาครับ ควรอบรมกิจที่จะไปถึง พระนิพพานครับ (ฟังให้เข้าใจในเรื่องสภาพธัมมะ) ขอยกข้อความที่พูดถึงเรื่องนิพพาน ว่าปุถุชน นึกเอาเรื่องพระนิพพานไม่ได้ เพราะยังไม่ประจักษ์ แม้แต่ความฝัน ยังไม่มีทางฝันถึงนิพพานเลยครับ ควรเริ่มจากเบื้องต้นก่อนนะครับ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 717
ข้อความบางตอนจาก ปฐมนิพพานสูตร ก็ด้วยอันดับคำเพียงเท่านี้ พระธรรมราชาเมื่อจะทรงประกาศอมต-นิพพาน อันไม่เคยมีไนสงสารซึ่งหาเบื้องต้นรู้ไม่ได้ แม้ที่สุดด้วยความฝันอันลึกโดยปรมัตถ์ เห็นได้ยากอย่างยิ่ง ละเอียดสุขุม นึกเอาเองไม่ได้ สงบที่สุด เป็นที่อำนวยผลเฉพาะตน ประณีตยิ่งนัก
ขออนุโมทนาค่ะ
ไม่ทราบเพราะยังเป็นปุถุชน
ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ