ความต่างหลังได้ฟังพระธรรม

ขอเล่าประสบการณ์การได้ฟังพระธรรมของกระผมน่ะครับ

1. จากเดิมไม่เคยได้ยินได้ฟังพระธรรม เปลี่ยนเป็น ได้ยินได้ฟังพระธรรมอันประเสริฐ รู้สึกปีติมาก จากไม่รู้เลยเป็นรู้บ้าง หรือแจ่มชัดในเรื่องง่ายๆ

2. พอฟังแล้วพิจารณาตาม พบว่าเป็นความจริงดังพระธรรมที่ท่านอาจารย์และวิทยากรได้แสดงให้ฟัง คือมีสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือการเห็นสิ่งต่างๆ ทางตา ได้ยินเสียงทางหู ได้กลิ่นทางจมูก ได้รู้รสทางลิ้น มีการสัมผัสทางกายให้รู้เย็น ร้อน อ่อน แข็ง มีการนึกคิดเกิดขึ้นจริงๆ ในแต่ละวัน ซึ่งเดิมไม่เคยพิจารณาเลย มีแต่ตัวเราของเรา เรื่องราวชีวิต สุขๆ ทุกข์ๆ ผ่านไปวันหนึ่งๆ เท่านั้น

3. เมื่อได้ฟังอีก แล้วพิจารณาตาม ได้รู้ว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่เกิดในชีวิตประจำวัน เรียกว่าธรรมะนั่นเอง เกิดขึ้นจริงๆ เกิดขึ้นแล้วก็หายไป ดับไปจริงๆ ตั้งแต่เด็ก จนโต ตั้งแต่เมื่อวานจนวันนี้ เมื่อกี้ก็มีธรรมะเกิดแล้วดับไป หมดไป เกิดอีกดับอีกต่อกันไปเรื่อยๆ จริงๆ ต่อเนื่องกันเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่าแท้จริงนั่นเป็นนามและรูปที่เกิดขึ้น แล้วก็ดับไปด้วยความไม่รู้ จึงคิดว่าเป็นตัวเราของเรา เป็นเรื่องราวชีวิตอย่างยึดมั่น ไม่เคยรู้ความจริงเลย

4. ในแต่ละวันเมื่อพิจารณาบ่อยๆ แล้วจะมีสิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นตลอดวันจริงๆ ทางตา มีเห็นเกิดขึ้นจริงๆ ต่างจากเดิมที่ไม่เคยสังเกตว่ามีการเห็น เห็นทางตาจริงๆ มีเห็นอีกแล้ว ทางหู มีได้ยินเกิดขึ้นจริงๆ ต่างจากเดิมที่ไม่เคยสังเกตว่ามีการได้ยิน ได้ยินทางหูจริงๆ ได้ยินอีกแล้วทางจมูก มีได้กลิ่นเกิดขึ้นจริงๆ ต่างจากเดิมที่ไม่เคยสังเกตว่ามีการได้กลิ่นได้กลิ่นทางจมูกจริงๆ ได้กลิ่นอีกแล้ว ทางลิ้น มีรสเกิดขึ้นจริงๆ ต่างจากเดิมที่ไม่เคยสังเกตว่ามีการรู้รส เช่น รู้รสหวานจริงๆ ขมจริงๆ เปรี้ยวจริงๆ ทางลิ้น ได้รู้รสอีกแล้ว ทางกาย เช่น มีแข็งเกิดขึ้นจริงๆ ต่างจากเดิมที่ไม่เคยสังเกตว่ามีแข็ง เกิดขึ้นขณะเหยียบบนพื้น ได้รู้แข็งอีกแล้ว เออนี่แข็งเป็นอย่างนี้ ทางใจ มีนึกคิดเกิดขึ้นจริงๆ ต่างจากเดิมที่ไม่เคยสังเกตว่ามีการนึกคิด นึกคิดทางใจจริงๆ นึกคิดอีกแล้ว นอกจากนี้ยังมีโกรธ มีดีใจ เสียใจ หยิ่งทะนง น้อยใจ ด้อยค่า และอีกหลายอย่าง เกิดขึ้นให้ได้รู้ตลอดทั้งวัน อย่างไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

5. แต่เดิมมีแต่ความกังวล เครียดในเรื่องงาน เรื่องทุกข์ของชีวิตจิตใจมีแต่ความขุ่นมัวแทบทั้งวัน กลายเป็นมีการพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น สลับกับการเผลอไปกับเรื่องราว ทำให้มีเครียด ทุกข์ใจอีก แต่พอนึกได้ก็พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นต่อ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นหลังเป็นประสบการณ์ จากการได้มาฟังพระธรรมที่มูลนิธิและฟังจากซีดีของท่างอาจารย์ แม้เป็นความต่างเพียงเล็กน้อย คือรู้ใหม่และรู้เพิ่มทีละน้อย ทำให้ผมรู้สึกถึงคุณค่าของพระธรรมเป็นอย่างมาก อย่างน้อยก็ช่วยลดช่วงเวลาที่มัวแต่เครียด มัวแต่กังวลหรือทุกข์ใจ เปลี่ยนสลับเป็นการเปลียนกลับมาดูตนเองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความทุกข์ความกังวลก็เบาบางลงอย่างสัมผัสได้ แตกต่างไปจากเดิมจริงๆ ครับ

เชิญคลิกอ่าน ...

ธรรมที่ข้าพเจ้าประทับใจ

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ไม่ใช่ทรงปริวิตก หรือ ตรึก หรือ คิด ทรงประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงทรงแสดงธรรม ผู้ฟังสามารถที่จะพิสูจน์ธรรมที่กำลังฟังได้ทุกขณะเมื่อมีความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ธรรมเป็นเรื่องละเอียด ไม่สามารถคิด หรือปฏิบัติเองโดยไม่ฟังพระธรรม นี่เป็นข้อที่สำคัญมาก