••• ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย •••
... สนทนาธรรมที่ ...
••• มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา •••
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๔ ก.ย. ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
ปฐมกาลสูตร (ว่าด้วยกาล ๔)
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓
... และ ...
ทุติยกาลสูตร (ว่าด้วยกาล ๔)
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕
... นำสนทนาโดย ...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓
๖. ปฐมกาลสูตร (ว่าด้วยกาล ๔)
[๑๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ กาเลน ธมฺมสฺสวนการฟังธรรมตามกาล กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล กาเลน สมโถ สมถะตามกาล กาเลน วิปสฺสนา วิปัสสนาตามกาล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล กาล ๔.
จบปฐมกาลสูตรที่ ๖
อรรถกถาปฐมกาลสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกาลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :- บทว่า กาลา คือกาลที่เหมาะที่ควร. บทว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนได้แก่ การฟังธรรมในเวลาที่เหมาะที่ควร. บทว่า ธมฺมสากจฺฉา ความว่า การสนทนาที่เป็นไปด้วยอำนาจการถามและการตอบปัญหา.
จบอรรถกถาปฐมกาลสูตรที่ ๖.
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕
๗. ทุติยกาลสูตร (ว่าด้วยกาล ๔)
[๑๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔เป็นไฉน? คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ สมถะตามกาล ๑ วิปัสสนาตามกาล ๑ นี้แลกาล ๔ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา น้ำไหลไปตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็ม ซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็มแล้วย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้ว ย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้ว ย่อมยังคลองให้เต็ม คลองเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำให้เต็ม แม่น้ำเต็มแล้ว ย่อมยังทะเลให้เต็มฉันใด กาล ๔ นี้ เมื่อบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่ย่อมยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นแล.
จบทุติยกาลสูตรที่ ๗
อรรถกถาทุติยกาลสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในทุติยกาลสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :- บทว่า กาลา นั่น เป็นชื่อแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจการฟังธรรม เป็นต้นในกาลนั้นๆ กาลเหล่านั้น จักแจ่มชัด และจักเป็นไป. บทว่า อาสวานํ ขยํได้แก่ พระอรหัตต์.
จบอรรถกถาทุติยกาลสูตรที่ ๗.
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความโดยสรุป
ปฐมกาลสูตร และ ทุติยกาลสูตร (ว่าด้วยกาล ๔)
ทั้งสองพระสูตร ต่างเป็นพระธรรมเทศนาที่ว่าด้วยกาล ๔ ประการ เหมือนกัน กล่าวคือ ในปฐมกาลสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงว่า เวลาแห่งการเจริญขึ้นของกุศล หรือ การเจริญกุศลตามกาลอันเหมาะควร มีดังนี้ คือ การฟังธรรมตามกาล การสนทนาธรรมตามกาล การเจริญสมถะ (ความสงบของจิต) ตามกาล การเจริญวิปัสสนา (ปัญญาที่เห็นอย่างแจ่มแจ้ง) ตามกาล
แต่ในทุติยกาลสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงให้ยิ่งขึ้นไปว่า เมื่อเจริญกุศลทั้ง ๔ ประการตามกาลแล้ว สามารถทำให้ถึงซึ่งความเป็นผู้สิ้นอาสวะ คือ บรรลุเป็นพระอรหันต์ ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง. ขอเชิญคลิกอ่านข้อความต่อไปนี้เพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น ครับ
อานิสงส์การฟังธรรม ๔ ประการ เพราะไม่ได้ฟังธรรม ย่อมเสื่อมรอบ สาวกคือ ผู้ฟัง ประโยชน์จากการสนทนาธรรม สมถภาวนา วิปัสสนาภาวนา
สมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา มีจุดประสงค์ต่างกันอย่างไร บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐...วิปัสสนาภาวนา ฯลฯ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
....................
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๒๘ ส.ค. ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
ปฐมกาลสูตร
..................
เรียนถามว่า วันที่ เป็น เสาร์ ที่ ๔ ก.ย. ๒๕๕๓ หรือเปล่า ครับ
วันเสาร์ที่ ๔ ก.ย. ๒๕๕๓ ถูกต้องครับ
ขอขอบพระคุณ คุณ thorn ที่ได้กรุณาแจ้งให้ทราบ
ทางบ้านธัมมะได้เข้าไปแก้ไขวันที่ให้ถูกต้องแล้วครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
...ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ...
ขออนุโมทนา สาธุครับ