คบหากับพระธรรม ก็มีความสนใจในพระธรรมเพี่มขึ้น
โดย pirmsombat  6 พ.ย. 2553
หัวข้อหมายเลข 17484

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์ นี่ก็เป็นปัญหาของท่านผู้ฟังใหม่ ซึ่งท่านเป็นผู้ที่สนใจ และถามเรื่องของการปฏิบัติ ก็มีปัญหาของท่านผู้ฟังเก่าด้วย ท่านผู้ฟังเก่าท่านหนึ่ง ท่านก็เป็นผู้ที่รู้สึกตัวว่า ท่านมีความสนใจในพระธรรมน้อยลง

นี่ก็เป็นสี่งที่เป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ จึงมีมีการขึ้นๆ ลงๆ แล้วแต่สภาพแวดลัอม ที่จะทำให้แต่ละบุคคลเปลี่ยนแปลง สำหรับท่านผู้ฟังท่านนี้ ท่านก็เป็นผู้ที่รู้สึกตัว ว่าท่านก็เข้าใจธรรมแล้ว และท่านก็รู้หนทางปฏิบัติ ว่าหนทางปฏิบัติที่ถูกต้องนั้นคืออย่างไร แต่ว่าที่ท่านไม่ได้มาฟังพระธรรมเหมือนก่อนก็เพราะว่า เหมือนกับเป็นเรื่องที่ท่านรู้แล้ว เพราะฉะนั้นท่านก็เลยขาดการฟัง เมื่อขาดการฟังจากที่นี่ ก็ทำให้ค่อยๆ ขาดการฟังจากที่อื่น เช่นทางวิทยุด้วย

ที่เป็นอย่างนี้ทุกท่านจะต้องทราบว่า เรื่องของการคบหาสมาคม เป็น สี่งสำคัญ เป็นสี่งแวดล้อม เป็นปัจจัยที่เป็นอุปนิสสัย คือเป็นปัจจัยที่มีกำลัง ถ้าขาดการคบค้าสมาคมกับพระธรรม คือขาดการฟังบ่อยๆ หรือขาดการอ่าน หรือขาดการสนทนาธรรมในขณะนั้น ชีวิตประจำวันทุกวันนี้ วันทั้งวัน โอกาส ของกิเลส มีมากอยู่แล้วเพราะฉะนั้นการที่จะได้ฟังพระธรรมหรือพิจารณาธรรมหรือ สนทนาธรรมเป็นแต่เพียงโอกาสที่สั้นๆ และเล็กน้อยมาก ที่ขณะนั้นอกุศลไม่มีกำลังพอที่จะให้ไม่ฟัง แต่เวลาที่เกิดการไม่ฟัง หรือว่าความสนใจที่น้อยลง อาจจะเห็นได้ว่าขณะนั้น เป็นการเปิดช่องให้กิเลสซึ่งมีอยู่แล้วในชีวิตประจำวันค่อยเพี่มโอกาสที่จะมีกำลังขึ้นอีก จากการไม่ฟัง จากการไม่พิจารณาธรรม จากการไม่สนทนาธรรม เพราะว่า อีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนมาด้วยกัน ฟังมาด้วยกัน สนทนาธรรมมาด้วยกัน แต่ว่าผู้นั้นยังเป็นผู้ที่ยังคงอ่านพระธรรมเป็นประจำ และยังสนทนาธรรมเป็นประจำ เพราะฉะนั้นท่านผู้นั้น ท่านก็กล่าวว่า ความสนใจในพระธรรมของท่าน เพี่มมั่นคงขึ้น

นี่แสดงให้เห็นว่า ทุกสี่งทุกอย่าง ต้องอาศัยเหตุปัจจัย สำหรับท่านที่คบหากับพระธรรม ก็มีความสนใจในพระธรรมเพี่มขึ้น แต่สำหรับท่านที่คบหากับ รูป เสียง ... พะ ก็มีความยินดีติดข้องในรูป ... พะ เพี่มขึ้น

ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่า การอบรมเจริญปัญญา เป็นเรื่องต้องเป็นเรื่องที่ต้องเป็นผู้ที่ไม่ประมาทจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าลดโอกาสของกุศลลง เพีมโอกาสให้อกุศลขึ้นอีก และ อกุศลที่มีกำลังอยู่แล้ว ก็จะมีกำลังเพี่มขึ้นอีก ทุกๆ วันนี้อกุศลสะสมไป ที่จะมีกำลังเพี่มขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อทราบว่า ยังไม่สามารถที่จะชนะกิเลสได้ ก็ขอเพียงฟัง ไม่ต้องทำอะไรมากค่ะ อย่าขาดการฟัง แต่ถ้ารู้ตัวเองว่า แม้แต่เพียงการฟัง ก็ชักจะไม่สนใจ หรืว่าไม่มีกำลังสัทธาพอที่จะฟังขณะนั้น ก็แสดงให้เห็นกำลังของ การคบหาสมาคมกับ อกุศล ซึ่งมีกำลังเพี่มขึ้นมหาศาล ขึ้นอีกเรื่อยๆ แม้แต่การฟังก็ไม่ฟัง

ถ้าทุกคนจะมีชื่ออีกชี่อหนี่ง คงจะชื่อ "คุณประมาท" เพราะว่าจริงๆ แล้ว ถ้าไม่ระวังจริงๆ กุศลที่เคยมี เคยเป็นปกติ เคยประจำ แล้วเสื่อมไป ขณะนั้นก็เห็นชัดว่า เป็นผู้ที่ประมาทแล้ว และบางคนก็ประมาทมาก เพราะฉะนั้นเติอนตัวเองว่า อีกชื่อหนึ่งของทุกคน ไม่ว่าจะชื่ออะไรกันก็ตามแต่ แต่อีกชื่อหนึ่งคือ "คุณประมาท" บางคนก็มีความประมาทในการเข้าใจ ธรรม หรือว่าในกุศลที่สะสมมา คิดว่ามั่นคงแล้ว จนกระทั่งถึงกับอยากจะทดลองกำลังของกิเลส นี่ก็เปนผู้ที่ประมาท เพี่มขึ้นไปอืก คือช่างไม่รู้เลยว่า อวิชชาและโลภะ มีกำลังมากแค่ไหน ไม่ควรเลยที่ใครจะไปทดลองกำลังของอวิชชาและโลภะ เพราะว่ามีกำลังอยู่ตลอดเวลาที่ สติปัฏฐานไม่เกิด ไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม

ถ้าจะอุปนมาเหมือนกับ ภพภูมิข้างหน้าเป็น อบายภูมิ พระธรรมและกุศล ทั้งหลายในชาตินี้ เหมือนเชือกที่ทุกท่านกำลังจับอยู่ที่ จะไม่ปล่อยให้ตัวเอง ตกลงไปสู่อบายภูมิ แต่ถ้ากำลังที่จับนั้นอ่อนลง จนกระทั่งก็ปล่อยมือจาก พระธรรม เป็นการแน่นอนซึ่ง ไม่มีทางที่รู้แจ้งอริยสัจจธรรม และ อกุศลธรรม ที่ได้กระทำแล้วก็มีโอกาส ที่จะกระทำให้ตกไป สู่อบายภูมิได้ ซึ่งโดยเฉพาะตกไปสู่ เหวของอวิชชา ซึ่งยากแสนยากที่จะขึ้นมาได้ เพราะว่าเป็นเหวลึก เพราะฉะนั้น ทางที่ดีทางหนึ่ง ก็อย่าลืมอีกชื่อหนึ่งของทุกคน คือ คุณ "ประมาท"

มีใครไม่ได้ชื่อนี้บ้าง ถ้าเตือ นตัวเองก็มีประโยชน์ เพราะว่าจะทำให้เป็นผู้ที่มีจุดหมายที่มั่นคงในชีวิต คือไม่ว่าจะมีความยินดี พอใจ ใน รูป ... พะ เพราะว่ายังไม่ได้ดับเป็นสมุจเฉท แต่ก็มีความมั่นคงที่จะอบรมเจริญปัญญาขึ้นเพื่อที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม



ความคิดเห็น 1    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 8 พ.ย. 2553

คำสอนและคำเตือนของท่านอาจารย์นี้มีค่ามากๆ เลยครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอมากๆ ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย pirmsombat  วันที่ 8 พ.ย. 2553

ขอบพระคุณ คุณจักรกฤษณ์ มาก และ ขออนุโมทนา ครับ


ความคิดเห็น 3    โดย สมศรี  วันที่ 10 พ.ย. 2553

การได้ฟังพระรรมบ่อยๆ เนืองๆ เป็นเหตุปัจจัยให้มีความคุ้นเคย เป็นปกติ เป็นชีวิตประจำวัน วันใดไปธุระ ไม่ได้ฟังก็ดูเหมือนขาดอะไรไป ถ้าไม่ฟัง ก็อ่าน ก็ดูสื่อธรรม ก็มีทางเลือกหลายทาง ทำให้ไม่เบื่อ ต้องกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ และท่านที่ผลิตสื่อทางอินเทอร์เนตมาก ท่านวิทยากร และกัลยาณมิตร และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย ที่พึ่งที่ระลึก  วันที่ 10 พ.ย. 2553
อนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 5    โดย pamali  วันที่ 10 พ.ย. 2553

กราบท่าน อจ.สุจินต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ชาตินี้ มีโอกาสได้ฟังพระธรรมขององค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะท่านอจ. ได้กรุณาสั่งสอน ... ขออนุโมทนาค่ะ ...


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 19 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ