กรณี ธมฺมชโยไม่ใช่พระภิกษุ นั้นอยากเรียนถามว่า ปุถุชนผู้ไม่รู้จะเริ่มศึกษาธรรมอย่างไร จึงไม่หลงเดินทางผิด
ขอขอบพระคุณ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ย่อมมากไปด้วยกิเลส และมีเหตุปัจจัยที่จะประพฤติกระทำสิ่งที่ผิดเป็นธรรมดา แต่เพราะอาศัยเหตุปัจจัย คือ การได้คบมิตรที่ดี ที่มีความเข้าใจถูกในธรรม ปุถุชนผู้ไม่ได้ศึกษา ย่อมได้ฟังสิ่งที่ถูกต้องตามความเป็นจริง เกิดปัญญาของตนเอง ที่จะเข้าใจถูกว่าอะไรควรไม่ควร และ แม้มีการประพฤติปฏิบัติที่ผิดซึ่งเกิดขึ้นได้ ก็เพราะอาศัยกัลยาณมิตร ชี้แจง บอกกล่าวในสิ่งที่ถูกต้อง ย่อมละในสิ่งที่ควรละเพราะเกิดปัญญาจากการได้ฟังในสิ่งที่ถูกต้องนั่นเอง เพราะฉะนั้นอาศัยมิตรดี ที่เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ ย่อมทำให้ได้มีการศึกษาธรรมที่ถูกต้อง และ ดำเนินไปตามที่ถูก แม้เดินทางผิดก็กลับมาสู่ในธรรมวินัยนี้ได้ ครับ
ข้อว่า ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดีเป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียวนั้น
พึงทราบโดยปริยายแม้นี้ ด้วยว่าเหล่าสัตว์ ผู้มีชาติเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากชาติ ผู้มีชราเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากชราผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจากมรณะ ผู้มีโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เป็นธรรมดา ย่อมพ้นไปจาก โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส
เพราะอาศัยเราผู้เป็นกัลยาณมิตรดูก่อนอานนท์ข้อว่า ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดีเป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียว
ตัณหาสูตร
การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยแยบคายให้บริบูรณ์ การทำไว้ในใจโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการสำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ การสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ สุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเข้าใจพระธรรมวินัย จากการฟังการศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริง ทำให้รู้ว่าใครเป็นพระภิกษุ ใคร ไม่ใช่พระภิกษุ อย่างเช่น ยักยอกทรัพย์ของผู้อื่น จะเป็นของส่วนรวมหรือของส่วนบุคคลมาเป็นของตน ได้ราคา ๕ มาสก ขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที หรือแม้แต่อวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ทั้งหมดอยู่ในพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เมื่อเข้าใจความจริงอย่างนี้ ใครๆ ก็หลอกไม่ได้ เพราะความจริงเป็นอย่างนั้น และที่สำคัญ จากการศึกษาพระธรรมวินัย จะเข้าใจถึงความเป็นพระภิกษุ จริงๆ ว่า เป็นเพศที่ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องศึกษาพระธรรมและน้อมประพฤติตามพระวินัย ถ้าประพฤตินอกเหนือจากนี้ก็ไม่ใช่พระภิกษุ เพราะฉะนั้น ก็ต้องฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมต่อไป เนื่องจากชาวพุทธจะขาดความเข้าพระธรรมและพระวินัย ไม่ได้ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เริ่มฟังธรรมไปได้เลย แรกๆ อาจฟังไม่เข้าใจเพราะไม่รู้เกี่ยวกับภาษาบาลีตัวดิฉันเองใช้เวลาถึง1ปีจึงฟังเข้าใจไม่มีปัญหาเกี่ยวกับภาษาบาลีอีก
เริ่มฟังธรรมไปได้เลย แรกๆ อาจฟังไม่เข้าใจเพราะไม่รู้เกี่ยวกับภาษาบาลีตัวดิฉันเองใช้เวลาถึง1ปีจึงฟังเข้าใจไม่มีปัญหาเกี่ยวกับภาษาบาลีอีก แต่ในช่วงเวลา1ปีนั้นเราก็ได้ความรู้ไปไม่น้อย ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาสาธุ ยิ่งฟังยิ่งรู้มากขึ้น และเห็นพระผิดวินัยมากขึ้นจากที่ไม่รู้มาก่อนผมได้ติดสติ๊กเกอร์ของมูลนิธิ ภิกษุในธรรมมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง มีพระหลายคน เขาไปตามพระมายืนมุงรถผมหลายคนและผมกลับจากห้องน้ำมาที่รถ เขามาถามว่ามาจากไหนจะไปไหน กังวลนิดหน่อยแต่ไม่เกิดอะไรขึ้น
ผมภูมิใจที่ได้มีส่วนเผยแพร่พระวินัยครับ
อภิเชษฐ ปานจรัตน์ (บาบู)
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
เริ่มต้นจากการฟังธรรมให้เข้าใจก่อนว่า ธรรมคือทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริงๆ ศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ เดี๋ยวนี้ ตราบใดที่ยังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ ก็ไม่มีโอกาสที่จะละความไม่รู้เลย
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
พระไตรปิฎก
ฟังธรรม
วีดีโอ
ซีดี
หนังสือ
กระดานสนทนา