[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 426
จตุตถปัณณาสก์
ชาณุสโสณีวรรคที่ ๒
๙. สปริกกมนสูตร
ว่าด้วยธรรมที่ควรงดเว้นและธรรมที่ไม่ควรงดเว้น
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 38]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 426
๙. สปริกกมนสูตร
ว่าด้วยธรรมที่ควรงดเว้นและธรรมที่ไม่ควรงดเว้น
[๑๖๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมนี้ควรงดเว้น มิใช่ธรรมที่ไม่ควรงดเว้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมนี้ควรงดเว้น มิใช่ธรรมที่ไม่ควรงดเว้นอย่างไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ของบุคคลผู้ฆ่าสัตว์ เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง การงดเว้นจากการลักทรัพย์ของบุคคลผู้ลักทรัพย์ เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง การงดเว้นจากการประพฤติผิดในกามของบุคลผู้ประพฤติผิดในกาม เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง การงดเว้นจากการพูดเท็จของบุคคลผู้พูดเท็จ เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง การงดเว้นจากการพูดส่อเสียดของบุคคลผู้ส่อเสียด เป็นการงดเว้น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 427
อย่างหนึ่ง การงดเว้นจากการพูดคำหยาบของบุคคลผู้พูดคำหยาบ เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง การงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อของบุคคลผู้พูดเพ้อเจ้อ เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง ความไม่อยากได้ของผู้อื่นของบุคคลผู้มีความอยากได้ของผู้อื่น เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง ความไม่ปองร้ายของบุคคลผู้ปองร้าย เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง ความเห็นชอบของบุคคลผู้มีความเห็นผิด เป็นการงดเว้นอย่างหนึ่ง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การงดเว้นย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ธรรมนี้ควรงดเว้น มิใช่ธรรมที่ไม่ควรงดเว้น ด้วยประการอย่างนี้แล.
จบสปริกกมนสูตรที่ ๙
อรรถกถาสปริกกมนสูตรที่ ๙
สปริกกมนสูตรที่ ๙ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ปริกฺกมนํ โหติ ได้แก่ ความงดเว้นย่อมมี.
จบอรรถกถาสปริกกมนสูตรที่ ๙