ปัจจุบันมีสำนักมากมายที่มีการสอนและให้มีการปฏิบัติธรรม โดยทุกที่ ก็บอกว่าคือคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วผู้สนใจศึกษาจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนใด ใช่หรือไม่ใช่
รบกวนเรียนถามผู้รู้ช่วยอนุเคราะห์ด้วย
ขอขอบคุณและอนุโมทนา
การที่จะสามารถรู้ว่าคำสอนไหนจริง ถูกต้องตรงกับพระธรรมของพระพุทธองค์ ก็ต้อง"ศึกษา" ปัจจุบันยังมีพระธรรมคือพระไตรปิฎกให้ศึกษา แต่ผู้ศึกษาต้องละเอียดพิจารณาด้วยเหตุและผล เพราะพระธรรมเป็นเรื่องของเหตุและผล ซึ่งไม่ง่ายที่จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ แต่ต้องอดทนและด้วยศรัทธาที่มั่นคง
จะรู้ได้อย่างไรคำสอนใดเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เราก็ต้องอาศัยท่านผู้รู้ ท่านผู้มีปัญญาที่ศึกษาธรรมจากพระไตรปิกฏมาแสดง และเราก็สามารถพิสูจน์ได้ เช่น พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน เราก็ต้องศึกษาสภาพธรรมในขณะนี้ เช่น เห็นมีจริง พิสูจน์ได้ว่าเป็นธรรมะอย่างหนึ่ง ต้องฟังและพิจารณาจนกว่าจะเข้าใจ และเข้าถึงสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน อย่างไรค่ะ
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าคำสอนใด คือพระพุทธศาสนา ปัจจุบันมีสำนักมากมายที่มีการสอนและให้มีการปฏิบัติธรรม โดยทุกที่ก็บอกว่าคือคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วผู้สนใจศึกษาจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนใด ใช่ หรือ ไม่ใช่รบกวนเรียนถามผู้รู้ช่วยอนุเคราะห์ด้วย
ขอขอบคุณและอนุโมทนา
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ...
เครื่องตัดสินว่าเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า [สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต]
ธรรมของพระพุทธเจ้าก็คือพระไตรปิฎก ในเมื่อทุกคนก็อ้างว่า มาจากพระไตรปิฎก แต่การศึกษาธรรมที่สำคัญที่สุดคือ ต้องสอดคล้องทั้ง ๓ ปิฎก เช่น ที่อื่นก็กล่าวเรื่องสติปัฏฐาน (การปฏิบัติ) แต่ถ้าไม่เข้าใจอภิธรรม ก็จะคิดว่ามีตัวตนที่จะทำ จะเลือกให้สติเกิด ตรงนั้น ตรงนี้ แต่เมื่อเข้าใจอภิธรรมด้วย ก็ทำให้เข้าใจถูกว่า มีแต่ธรรม ที่ทำหน้าที่ สติเป็นธรรมไม่ใช่เรา ในเมื่อไม่ใช่เรา ก็ไม่มีใครบังคับให้สติเกิดได้ มีเหตุปัจจัยจึงเกิด (คัมภีร์ปัฏฐาน ในอภิธรรม) ดังนั้นเราจะรู้ว่าสิ่งใดถูกผิด ก็ต้องศึกษาธรรมให้ละเอียด โดยให้สอดคล้องทั้ง ๓ ปิฎกเมื่อไม่เข้าใจอภิธรรม ก็ทำให้ไม่เข้าใจพระสูตรด้วย เพราะยึดถือว่ามีสัตว์ บุคคลศึกษาว่า มีรูป ๒๘ ในอภิธรรม รูปนั่งก็ไม่มี.. ซึ่งเป็นผลมาจากการศึกษาสอดคล้องใน ๓ ปิฎก ผู้ที่จะรู้ได้ว่าคำสอนใดถูก ผิด จึงต้องศึกษาโดยละเอียดจากพระไตรปิฎกครับ และที่สำคัญที่สุด เป็นเรื่องของการละตั้งแต่ต้น ถ้าหนทางไหนสอนให้ได้ นั่นเท่ากับเพิ่มสมุทัย คือความต้องการซึ่งไม่ใช่คำสอนครับ แม้ในเรื่องปฏิบัติ เช่น เจริญวิปัสสนาแก้กรรม เจริญวิปัสสนาจะได้นู้น ได้นี่ เป็นต้นจะขอยก ข้อความที่อธิบายว่า สิ่งใดเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ตัดสินด้วยอะไร
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าคำสอนใดคือพระพุทธศาสนา
ถ้าไม่รู้ว่าพระพุทธศาสนาสอนอะไร ก็ไม่รู้จะหาหลักเกณฑ์ใดมาเป็นข้อตัดสินพิจารณาคำสอนทั้งหมดศึกษาได้จากพระไตรปิฎก รวมทั้งอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และธรรมเทศนาของท่านผู้รู้ผู้ทรงคุณทั้งหลาย ทั้งในเพศคฤหัสถ์และบรรพชิต ซึ่งทั้งหมดต้องสอดคล้องกับพระไตรปิฎก
ถ้าไม่สอดคล้องกับพระไตรปิฎก นั่นไม่ใช่คำสอนในพระพุทธศาสนา
สาธุ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ...
มหาประเทศ ๔ [มหาปเทสสูตร] อ่านพระสูตรนี้แล้วไม่มีข้อสงสัยอะไรเลยค่ะ ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ