การฟังพระธรรมเหมือนเป็นการเตือน ให้ปฏิบัติดี หรือไม่อย่างไร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การฟังพระธรรม เป็นกุศล เป็นความดี เป็นการฟังเรื่องสัจจธรรม สิ่งที่มีจริงเป็นจริงในชีวิตประจำวัน ฟังในสิ่งที่มีจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทำให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาเข้าใจสภาพธรรมที่เคยยึดถือว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ว่าแท้ที่จริงก็เป็นเพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ เท่านั้นจริงๆ ทำให้เข้าใจโลกและเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง ผลจากการฟังพระธรรม คือ มีปัญญา ความรู้ความเข้าใจ ที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ปัญญาที่เกิดจากการฟังพระธรรม เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสและดับกิเลสได้ในที่สุด แต่ละบุคคลมีกิเลสมากเหลือเกิน การที่กิเลสจะค่อยๆ หมดไปได้ คลายไปได้ ก็ด้วยความเห็นถูกที่ถูกต้องจากการฟังพระธรรม แล้วก็เป็นความเข้าใจของตนเองด้วย ที่จะทำให้มีศรัทธาเพิ่มขึ้น ฟังมากขึ้น แล้วก็สามารถที่จะน้อมประพฤติปฏิบัติตามได้ เมื่อมีการฟังพระธรรมและมีความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ กุศลธรรมประการต่าง ๆ ก็จะเจริญขึ้นตามระดับขั้นของปัญญา ด้วย เพราะเหตุว่า เมื่อปัญญาเจริญขึ้น การคิด การกระทำ และคำพูด ก็จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะมีพระธรรมเป็นเครื่องฝึกที่ดี สูงสุด คือ เมื่อปัญญาคมกล้าขึ้น ก็สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ปราศจากกิเลสซึ่งเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต ตามลำดับมรรค เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า การฟังพระธรรม เป็นการศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เพื่อให้เข้าใจธรรมซึ่งมีจริงอยู่ทุกขณะตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นประโยชน์กับทุกคน โดยไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ขณะที่ฟังพระธรรม ขณะนั้นเป็นกุศล เป็นความดี โดยที่ไม่ต้องไปขวนขวายหาวัตถุมาให้ทานเลย ก็เป็นกุศลแล้วในขณะที่ฟังพระธรรม ซึ่งก็หมายรวมถึงการอ่าน การพิจารณาไตร่ตรอง การสนทนา การสอบถามจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีปัญญา ด้วย ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาทั้งสิ้น แต่จะเจริญขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่ที่การสะสมมาของแต่ละบุคคล อย่างแท้จริง ครับ.
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
การฟังเป็นเหตุให้เจริญปัญญา [มหาจุนทเถรคาถา]
การเป็นคนดีควบคู่กับการฟังธรรม
ชีวิตที่มีค่า คือ มีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ และได้ฟังพระธรรมให้เข้าใจ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม จะไม่สามารถรู้ได้ว่า อะไรถูก อะไร ไม่สามารถน้อมประพฤติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ไม่สามารถรู้ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงเตือนให้เห็นว่า อวิชชา ความไม่รู้ ตลอดจนถึงกิเลสอกุศลธรรมทั้งหลายของตนเองมากน้อยเพียงใด ถ้าไม่เริ่มฟังพระธรรมตั้งแต่ในขณะนี้ จะขัดเกลาให้เบาบางลงได้อย่างไร
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้ผู้ฟังได้พิจารณาไตร่ตรอง เป็นความเข้าใจของผู้ฟังเอง ขอเพียงเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรม ซึ่งก็หมายถึงสิ่งที่มีจริงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเป็นธรรม เพราะในการฟังการศึกษาพระธรรม นั้น เป็นการศึกษาเพื่อให้เข้าใจ สิ่งที่มีจริงที่กำลังมีในขณะนี้จริงๆ ซึ่งตัวสภาพธรรมจริงๆ นั้น มีลักษณะเฉพาะของตนๆ โดยไม่ต้องใช้ชื่ออะไรๆ ก็ได้ แต่ที่มีชื่อหรือใช้ชื่อนั้น ก็เพื่อบอกให้รู้ว่ากำลังกล่าวถึงอะไร ก็เพื่อให้เข้าถึงตัวจริงของสภาพธรรมทีกำลังกล่าวถึงนั่นเอง
เพราะการฟังพระธรรม จะต้องมีเรื่องที่กำลังฟัง และ ก็จะต้องเป็นผู้เข้าใจเรื่องของสภาพธรรม นั้นๆ ด้วย สิ่งสำคัญ คือ การฟังแล้ว เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง ขอเพียงฟังให้เข้าใจจริงๆ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ
พระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีค่ามาก มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ ในโลกทั้งปวง ซึ่งถ้าไม่มีโอกาสได้ฟัง ไม่มีโอกาสได้ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจเลย บุคคลผู้ที่ฟัง ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น ถึงจะเข้าใจและได้รับประโยชน์จากพระธรรมอย่างแท้จริง, สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่งคือ การฟังพระธรรม เป็นโอกาสที่หายากในชีวิต เป็นการยากมากที่จะได้ฟัง เมื่อมีโอกาสแล้ว ได้พบพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องแล้ว ก็ไม่ควรจะปล่อยโอกาสนั้นให้ผ่านไป ควรตั้งใจฟังด้วยความเคารพ
ขณะที่ฟังพระธรรม ขณะนั้นเป็นกุศล เป็นความดี เป็นกุศลแล้วในขณะที่ฟังพระธรรม ซึ่งก็หมายรวมถึงการพิจารณาไตร่ตรอง การสนทนา การสอบถามจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีปัญญา ด้วย ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาทั้งสิ้น แต่จะเจริญขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่ที่การสะสมมาของแต่ละบุคคล อย่างแท้จริง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
การฟังธรรมเป็นความดี ทำให้ละกิเลส มีปัญญาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ