เรียน อาจารย์ครับ
เนื่องจากว่า วันที่ ๑๐ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑ ที่ผ่านไปก่อนหน้าหนึ่งวัน ซึ่งเป็นวันที่ ๙ ลูกชายกระผมได้โทรมาถามกระผมว่า (พ่อพรุ่งนี้เป็นวันพระ ผมว่าผมจะถือศีล ๘ ผมเลยโทรมาถามพ่อดูว่า ผมควรทำอย่างไรบ้างครับ) กระผมก็พูดให้เขาฟังว่า (เราเป็นผู้ครองเรือน และก็มีการงานประจำมีเวลาน้อย พ่อก็ไม่แน่ใจว่า การที่หนูจะถือศีล ๘ นั้นเหมาะหรือไม่ และอีกอย่างหนึ่ง แม่บ้านของหนูเขาจะรู้อย่างไรอยู่ๆ หนูก็เกิดอยากรักษาศีล ๘ ขึ้นมา พ่อเกรงว่าแม่บ้านของหนูจะไม่เข้าใจ และเขาก็ยังไม่มีศรัทธาในพระธรรมด้วย อีกอย่างหนึ่งเราครองเรือนเรื่องศีล ๕ เนี่ยก็ยังยากนะที่จะรักษาให้บริสุทธิ์บริบรูณ์ กิเลสอกุศลในใจเรานี่มันกลับกรอกหวั่นไหวได้โดยง่ายๆ แต่พ่อแน่ใจอยู่ว่าการที่เราอยากรักษาศีล อยากจะมีการรักษาศีลให้ได้มากๆ ข้อนี่เกิดจากความต้องการเกิดจากความไม่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ได้หมายความว่า พ่อห้ามนะ ในความเป็นจริงแล้วใจพ่อนะพ่ออยากให้หนูหาโอกาส ฟังพระธรรมและศึกษาพระธรรมให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากกว่า
ขอเรียนสอบถามกับอาจารย์ครับ
ผู้อยู่ครองเรือนสามารถรักษาศีล ๘ ให้บริสุทธิบริบรูณได้หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ ไม่ได้ เพราะเหตุใดครับ
ลูกสาวถามว่า ฝรั่งถ้าไปตกนรกแล้วจะพูดกันรู้เรื่องหรือ เพราะศาสนาอื่น (บาปบุญไม่มีศาสนา ลัทธิอื่นไม่ใช่ศาสนา) แล้วตาลปัตรที่เหมือนพัด พระเอาไว้ทำอะไร (ตอบลูกไม่ได้ครับ) เรียนสอบถามประมาณนี้ครับ
กราบอนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้อยู่ครองเรือนสามารถรักษาศีล ๘ ให้บริสุทธิ์บริบรูณ์ ได้หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้ ไม่ได้ เพราะเหตุใดครับ
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจจุดประสงค์ที่ถูกต้อง ของการรักษาศีล ๘ คืออะไร ครับ การรักษาศีล ๘ หรือ ถ้ารักษาในวันพระ เป็นต้นก็เรียกว่า ศีลอุโบสถ ซึ่งมี ๘ ข้อ เป็นการรักษาศีล เพื่อเป็นไปในการขัดเกลากิเลสมากขึ้น ที่เคยรักษาศีล ๕ ด้วย การเห็นประโยชน์ของการเจริญกุศล และเห็นประโยชน์ของการขัดเกลากิเลสมากขึ้น การรักษาศีล ๘ จึงไม่ใช่เป็นไปเพื่อการได้ผลของบุญ แต่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสเป็นสำคัญ ครับ
ซึ่งผู้ที่จะรักษาศีล ๘ ได้สมบูรณ์ ไม่ขาด และเป็นปกติของท่านคือ ผู้ที่บรรลุคุณธรรมถึงความเป็นพระอนาคามีแล้วครับ เพราะความบริสุทธิ์ของศีล 8 สำคัญ ที่ปัญญาเป็นสำคัญ ซึ่งขออนุญาตยกข้อความของท่านอาจารย์สุจินต์ในประเด็นนี้ ให้พิจารณา ดังนี้
"...ผู้ที่จะรักษาอุโบสถศีลต้องเป็นคนดี คือ ต้องเป็นผู้เห็นโทษของอกุศล แล้วต้องเป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้มีปกติรักษาศีล ๕ ถ้าเป็นผู้ที่ไม่ได้รักษาศีล ๕ เป็นปกติแล้วจะรักษาอุโบสถศีล ก็คิดดูว่า จะรักษาเพื่ออะไร ในเมื่อปกติก็ไม่ได้เป็นผู้รักษาศีล ๕
ด้วยเหตุนี้การรักษาอุโบสถศีลจึงต้องเป็นผู้เจริญกุศล และขัดเกลากิเลสด้วยการอบรมเจริญปัญญา ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามปกติตามความเป็นจริง ต้องเป็นผู้มีความจริงใจ มีสัจจะต่อตนเอง ไม่ใช่รักษากันเพราะต้องการอานิสงส์ หรือว่าต้องการผลของอุโบสถ โดยที่ตัวเองก็ยังเป็นผู้ไม่มีสัจจะไม่มีความจริงใจ หรืออาจจะเป็นผู้มีมายา หลอกลวง แข่งดี โอ้อวด แล้วก็จะรักษาอุโบสถศีล นี่ก็แสดงให้เห็นว่า การกระทำทุกอย่างควรจะต้องเป็นผู้มีปัญญา รู้เหตุผลในกุศลที่จะกระทำ ไม่ใช่เพียงต้องการได้รับอานิสงส์ หรือผลของอุโบสถศีลเท่านั้น..."
จะเห็นนะครับว่า สำคัญที่จะต้องมีความเข้าใจถูก เป็นสำคัญ ย่อมเป็นการรักษาอุโบสถศีล ศีล ๘ ที่ถูกต้อง เพื่อละ ขัดเกลากิเลส เพราะรู้จักโทษของกิเลสตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น ขอให้เริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเพื่อความเข้าใจถูกต้อง และ เมื่อมีความเข้าใจถูก ก็จะเห็นโทษของกิเลสตามความเป็นจริง และเป็นผู้ที่จะขัดเกลากิเลสเพิ่มขึ้นจากการรักษาศีล ๕ เป็นรักษาศีล ๘ ครับ
ลูกสาวถามว่า ฝรั่งถ้าไปตกนรกแล้วจะพูดกันรู้เรื่องหรือ เพราะศาสนาอื่น (บาปบุญไม่มีศาสนา ลัทธิอื่นไม่ใช่ศาสนา)
นรก ไม่ได้เลือกว่า เป็นชนชาติใด ศาสนาใด เพราะนรกเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ทำบาป ทำอกุศลกรรม ดังนั้น ไม่ว่าชนชาติใด ศาสนาใดก็เป็นการสมมติเรียกตัวเองอย่างนั้น แต่สภาพธรรมที่เป็นสัจจะ ความจริง ไม่เปลี่ยนแปลง อกุศล เป็นอกุศล เมื่อมีการทำบาป ไม่ว่าใคร ผลย่อมมี เพราะได้สร้างเหตุไว้แล้ว จึงมีสถานที่ควรรับกรรม ที่เป็นอกุศลกรรมที่ทำไว้ มี นรก เป็นต้น เมื่อไปเกิดในนรกแล้ว โดยมาก ก็ย่อมจะตกนรกทันที โดนทรมาน ตามกรรมที่ได้ทำไว้ สมควรแก่กรรม แต่เมื่อมีการพูด สนทนา ก็สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำกรรมหนักเกินไป แต่ทำกุศลกรรมด้วย พญายมราช ย่อมสอบถาม ไตร่ถามให้ระลึกถึงเทวทูต มีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นต้น และให้ระลึกได้ถึงความดี เพื่อที่บุคคลนั้นจะได้พ้นจากนรก ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องภาษา พญายมราช ย่อมกล่าวตามภาษาที่บุคคลนั้นเข้าใจได้ เพื่อให้สัตว์นั้นได้ทราบความหมาย สื่อสารกันเข้าใจรู้เรื่อง ครับ นี่ คือ เมื่อมีการพูดคุย สนทนากัน แต่โดยมากแล้ว ไม่มีการสนทนาพุดคุย เพราะเมื่อตกนรกโดยมาก สัตว์ก็ถูกทรมาน ตามขุมนรกทันที ครับ
แล้วตาลปัตรที่เหมือนพัดพระ เอาไว้ทำอะไร (ตอบลูกไม่ได้ครับ)
สำหรับตาลปัตร ที่พระใช้กันนั้น ความหมายของ ตาลปัตร จริงๆ คือ ใบตาล ซึ่งใบตาล ก็เป็น สิ่งที่ใช้สำหรับ บังแดด และ ทำเป็นพัด มาเนิ่นนาน ในสมัยอดีตกาล ตั้งแต่ พุทธกาลแล้ว เพราะฉะนั้น ทั้งคฤหัสถ์ บรรพชิตในสมัยอดีต ก็ใช้ใบตาล ทำประโยชน์ต่างๆ ซึ่ง โดยทั่วไปสมัยพุทธกาล พระภิกษุ ก็ใช้พัด ใบตาล ที่เรียกว่า ตาลปัตรในปัจจุบัน ในการพัด มีการคลายร้อน เป็นต้น แต่ไมได้เกี่ยวกับว่า จะต้องมีพิธีกรรม งานศพ เ แต่ อย่างไรก็ดี สมัยปัจจุบันที่ใช้ตาลปัตร เวลาสวด แสดงธรรม บังข้างหน้า เพื่อจุดประสงค์ให้ผู้ฟังตั้งใจฟังพระธรรมเป็นสำคัญ ไม่เพ่งมอง พระภิกษุ และพระภิกษุ ก็ตั้งใจแสดงธรรม ไม่เพ่งมองคฤหัสถ์ อันจะเป็นเหตุให้กิเลสกำเริบได้
ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำคัญที่จุดประสงค์ต้องตรงว่า ที่รักษาศีล ๘ ในวันพระ หรือ ที่เรียกว่า อุโบสถศีลนั้น เพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น ไม่ใช่เพียงเห็นว่าศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ จะได้ผลมากกว่ารักษาศีล ๕ แต่ทั้งหมดนั้นเพื่อเป็นการขัดเกลาละคลายกิเลสของตนเอง อยู่อย่างพระอรหันต์ เว้นในสิ่งที่เป็นทุจริตประการต่างๆ ตลอดวันดังกล่าวนั้น ไม่ประกอบอาชีพใดๆ ในวันนั้น เพราะสิ่งใดก็ตามที่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ย่อมเป็นสิ่งที่สมควร ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การฟังพระธรรม ศึกษา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง
เมื่อกล่าวโดยสภาพธรรมแล้ว ไม่มีคนไทย ไม่มีคนฝรั่ง มีแต่ธรรมเท่านั้น ที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ซึ่งไม่พ้นไปจากจิต เจตสิก รูป จะดีหรือชั่ว ก็คือ จิตและเจตสิกเกิดขึ้นเป็นไป กุศล เกิด ดี แต่ถ้าเป็นอกุศลแล้ว ไม่ดี เลย ถ้าฝรั่ง ทำในสิ่งที่ผิด ที่เป็นอกุศลกรรม เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น ก็ย่อมเป็นบาป เป็นสิ่งที่ผิด คนไทย ก็เช่นเดียวกัน ความเป็นจริงของธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น เมื่อถึงคราวที่กรรมจะให้ผล ผลก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ทำไมพระสงฆ์ต้องใช้ตาลปัตร
อธิบายเรื่องสวรรค์ นรก
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
รักษาศีลอุโบสถ จุดปรสงค์เพื่อขัดเกลากิเลส เห็นโทษของอกุศลที่จะไปอบายภูมิ ค่ะ
ขอเรียนสอบถามเพิ่มเติมครับ
คือ อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของพระธรรมครับไม่ทราบจะเหมาะไหมครับ แต่ก็ขออนุญาตเรียนสอบถามครับ คือลูกสาวเขาใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันกับกระผม โดยเอาชื่อของตัวกระผมไปสมัครเฟสบุ๊สโดยไม่ยอมใช้ชื่อตนเองสมัคร แล้วก็มีการแชร์กันในหมู่เพื่อน คือกระผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับคอมเท่าไหร่ครับ อยากทราบว่าจะมีผลเสียอะไรไหม ครับ เคยเปิดเข้าไปดูครับแต่ไม่กล้าใช้ครับ
ขอบพระคุณครับ
เรียน ความเห็นที่ 4 ครับ
ควรให้ลูกสาวเปลี่ยนชื่อนะครับ เพราะ การแชร์ บางครั้ง ไม่ถูกต้อง หรือ ในประเด็นที่ไม่สมควร ก็อาจจะโยงมาที่ชื่อของเราได้ ควรเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นของลูกสาว และแนะนำ การแชร์ การเล่น ให้เหมาะสมด้วย ครับ เราสามารถแนะนำได้
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณอย่างมากสำหรับข้อแนะนำครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ