พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓-หน้าที่ 435
นายปุณณะยากจนต้องรับจ้างสุมนเศรษฐี
ต่อมาวันหนึ่ง พวกราชบุรุษทำการโฆษณาในกรุงราชคฤห์ว่า" ชาวพระนครพึงเล่นนักษัตรกันตลอด ๗ วัน. " สุมนเศรษฐีได้ยินคำโฆษณานั้นแล้ว จึงเรียกนายปุณณะผู้มาแต่เช้าตรู่กล่าวว่า " พ่อ ปริชนของฉัน ประสงค์จะเล่นนักษัตรกัน, แกจักเล่นนักษัตร (กะเขา) หรือหรือว่าจักทำการรับจ้างเล่า? " นายปุณณะ. นาย ชื่อว่าการเล่นนักษัตร ย่อมเป็นของพวกท่านผู้มีทรัพย์. ก็ในเรือนของผม แม้ข้าวสารจะต้มข้าวต้มเพื่อรับประทานในวันพรุ่งนี้ก็ไม่มี. ผมจะต้องการอะไรด้วยนักษัตรเล่า? ผมได้โคแล้ว ก็จักไปไถนา. สุมนเศรษฐี. ถ้าเช่นนั้น แกจงรับโคไปเถิด. ฯลฯ ในกาลนั้น พระสารีบุตรเถระเข้านิโรธสมาบัติตลอด ๗ วันแล้วในวันนั้นออกแล้ว ตรวจดูว่า " วันนี้ เราควรจะทำความสงเคราะห์แก่ใครหนอแล? " เห็นนายปุณณะซึ่งเข้าไปในข่ายคือญาณของตนแล้วจึงตรวจดูว่า " นายปุณณะนี้ มีศรัทธาหรือหนอ? เขาจักอาจทำการสงเคราะห์แก่เราหรือไม่? " ทราบความที่เขามีศรัทธา มีความสามารถจะทำการสงเคราะห์ได้ และเขาจะได้รับสมบัติใหญ่เพราะบุญนั้นเป็นปัจจัย แล้ว จึงถือบาตรและจีวรไปยังที่ไถนาของเขา ได้ยืนแลดูพุ่มไม้ที่ริมบ่อ.นายปุณณะเห็นพระเถระแล้ว จึงวางไถ ไหว้พระเถระด้วยเบญจางค-ประดิษฐ์แล้ว คิดว่า " พระเถระคงจักต้องการไม้สีฟัน " จึงได้ทำไม้สีฟันให้เป็นกัปปิยะถวาย. ฯลฯ ทานของสามีภรรยาอํานวยผลในวันนั้น ครั้งนั้น ที่ที่เขาไถไว้แต่เช้าตรู่ ได้เป็นทองคำเนื้อสุกทั้งหมด จนกระทั่งฝุ่นละลองดิน ตั้งอยู่งดงามดุจดอกกรรณิกา. เขาตื่นขึ้น แลเห็นแล้ว จึงพูดกะภรรยาว่า " นางผู้เจริญ ที่ที่ฉันไถแล้วนั่น ปรากฏแก่ฉันเป็นทองคำทั้งหมด, เพราะฉันได้ภัตสายเกินไป ตาจะลายไปกระมังหนอ?" แม้ภรรยาองเขาก็รับรองว่า " ที่นั้น ก็ย่อมปรากฏแม้แก่ดิฉันอย่างนั้นเหมือนกัน. " ฯลฯ นายปุณณะได้รับตำแหน่งเศรษฐี เขาให้ช่างทำเรือนในที่นั้น โดย ๒ - ๓ วันเท่านั้น ทำเคหปปเวสน-มงคล และฉัตรมงคล เป็นงานเดียวกัน ได้ถวายทานแด่ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขตลอด ๗ วัน. ครั้งนั้น พระศาสดาเมื่อจะทรงทำอนุโมทนาแก่เขา จึงตรัสอนุปุพพีกถาแล้ว. ในกาลจบธรรมกถา ชนทั้ง ๓ คือ ปุณณเศรษฐี ๑ ภรรยาของเขา ๑ นางอุตตราผู้เป็นธิดา ๑ ได้เป็นพระโสดาบันแล้ว. ฯลฯ