ถ. จากการศึกษาในบทสวดมนต์ทำวัตรเช้า ที่ท่านว่า อุปาทานักขันธา ทุกขา คือ การเข้าไปยึดมั่นในขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ ... นี้เป็นอย่างไร
สุ. เป็นทุกข์แน่ เมื่อไม่รู้สภาพความเป็นจริงของธรรมที่ปรากฏ ก็ย่อมยินดียินร้าย ในขณะที่ยินดียินร้ายก็เป็นทุกข์อย่างหนึ่ง เพราะขณะนั้นไม่สงบจากกิเลสเลย
ตราบใดที่ปัญญายังไม่เกิดขึ้น ก็ไม่รู้สภาพที่ต่างกันของกุศลจิตและอกุศลจิต ทุกคนชอบโลภะ ไม่หมดความพอใจในโลภะ จนกว่าปัญญาจะเห็นความต่างกันของขณะที่เป็นกุศลซึ่งไม่มีโลภะ กับขณะที่เป็นโลภะซึ่งสนุกรื่นเริง ปรารถนา พอใจ ติดข้อง เมื่อปัญญาไม่เกิดก็พอใจในกิเลส พอใจในโลภะ ซึ่งไม่มีวันพอ ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ โดยไม่รู้เลยว่าขณะนั้นเป็นทุกข์ เป็นโทษ เป็นภัย การยึดถืออุปาทานขันธ์ ๕ จึงเป็นทุกข์
ถ. ทีนี้ ถ้าเราระวังตอนกระทบ เช่น ตากระทบรูป หูกระทบเสียง ถ้าเรามีสติตอนนั้นก็จะไม่เป็นความพอใจหรือไม่พอใจ
สุ. ไม่มีใครระวังหรือบังคับให้สติเกิดขึ้นได้ เมื่อสติเกิด ก็รู้ความต่างกันว่า ขณะที่สติเกิด ต่างกับขณะที่สติไม่เกิด
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป
กราบท่านอาจารย์และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ