กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ
สัตว์ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์มีน้อย [นขสิขสูตร]
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ผลของบุญเมื่อให้ผลปฏิสนธิย่อมเกิดในสุคติภูมิ มี มนุษย์ เทวดา 6 ชั้นและพรหม
โลก เป็นต้น ส่วนผลของอกุศลกรรมก็ย่อมให้ผลปฏิสนธิเกิดในทุคติภูมิ มี นรก เป็นต้น
ซึ่งในพระไตรปิฎกไม่ได้แสดงจำเพาะเจาะลงไปว่าบุญอะไรที่จะทำเกิดเป็นมนุษย์ครับ
เพียงแต่เข้าใจว่ากุศลที่ไม่ใช่ฌาน ย่อมสามารถทำให้เกิดในมนุษย์และเทวดาครับ ซึ่ง
ในพระไตรปิฎกแสดงเรื่องผลของกุศล 3 ระดับ ที่เปรียบเหมือนเรื่องของพรหมจรรย์
มี 3 ระดับ คือ บุคคลเกิดเป็นกษัตริย์ด้วยพรหมจรรย์อย่างต่ำ บุคคลเกิดในเทวโลกด้วย
พรหมจรรย์อย่างกลาง และเกิดในพรหมโลกด้วยพรหมจรรย์อันสูงสุด ซึ่งพรหมจรรย์
อย่างต่ำหมายถึงกุศลที่เป็นไปในเรื่องศีล การรักษาศีล ซึ่งทำให้เกิดเป็นกษัตริย์ในภพ
มนุษย์ พรหมจรรย์อย่างกลาง คือ ผลของกุศลระดับอุปจาร เช่น การระลึกถึงพระ
พุทธคุณ เป็นต้น ย่อมทำให้เกิดในเทวโลก ส่วนพรหมจรรย์ขั้นสูงสุด คือ กุศลที่เป็นขั้น
ฌานที่ทำให้เกิดในพรหมโลกครับ
อีกนัยหนึ่ง ถ้าในทางพระพุทธศาสนา พรหมจรรย์อย่างต่ำ คือ บุคคลที่ศึกษาพระ
ศาสนาแล้วปรารถนาการเกิดในเทวโลก พรหมจรรย์อย่างกลาง คือ ผู้ที่อบรมฌาน
ส่วนพรหมจรรย์สูงสุด คือ ผู้ที่อบรมปัญญา เจริญวิปัสสนา และบรรลุธรรมครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ... พรหมจรรย์ 3 ระดับ [สีลขันธวรรค]
จากที่กล่าวมาจึงเป็นของกุศลที่ไม่ใช่ระดับฌานทำให้เกิดเป็นมนุษย์และเทวดาครับ
และอีกนัยหนึ่ง ผู้ที่ประพฤติธรรมเป็นปกติที่สุจริตทางกาย วาจาและใจด้วยกุศล เมื่อมี
ความปรารถนาไปเกิดในภพภูมิมนุษย์ มีคฤหบดีมหาศาลย่อมเป็นปัจจัยให้กุศลนั้น
ทำให้ไปเกิดตามที่ตั้งใจไว้ได้ครับ เพราะผลของกุศล แต่ที่สำคัญที่สุด ธรรมเป็น
อนัตตา ไม่รู้เลยว่าชาติต่อไปจะเกิดเป็นอะไรเพราะไม่รู้ว่ากุศลใดจะให้ผล หรือ อกุศล
จะให้ผลครับ ในชวนจิตสุดท้ายก่อนจะเกิด ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่าจะไปเกิดเป็นมนุษย์
หรือไม่ จะไปเกิดเป็นเทวดาหรือไม่ หรืออาจไปเกิดในอบายภูมิก็ได้ เพราะธรรมเป็น
อนัตตาจริงๆ จึงไม่ใช่เรื่องหวังแต่เป็นเรื่องที่เข้าใจถึงความเป็นอนัตตา แม้จะทำบุญ
มามากก็ไปเกิดในอบายภูมิได้ถ้ากรรมนั้นให้ผลครับ แต่เราก็ไม่ประมาทในการเจริญ
กุศลทุกๆ ประการในชาตินี้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ตามกำลังของปัญญาครับ
ที่สำคัญที่สุด การศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ย่อมสะสมสิ่งที่ประเสริฐ อันเป็นเหตุ
ที่จะต้องไม่เกิดอีก เพราะผู้มีปัญญาถึงแม้จะเกิดบ่อยๆ ก็เพื่อที่จะไม่เกิดอีกครับ และถ้า
ไม่ได้อบรมปัญญา แม้เกิดเป็นมนุษย์ แต่ไม่มีความเข้าใจพระธรรมที่สะสมมา ก็ย่อม
สะสมอกุศลเพิ่มขึ้น ชาตินั้นก็เหมือนกับคนตาบอด ที่แม้มีตา แม้เกิดเป็นมนุษย์แต่ก็
ไม่ได้เข้าใจความจริงนั่นเองครับ ดังนั้นชีวิตทีเหลือน้อย ไม่ต้องรอภพหน้า สะสม
ปัญญาเดี๋ยวนี้และกุศลทุกๆ ประการครับ ส่วนจะเกิดเป็นอะไรในชาติไหนนั้นเป็นเรื่อง
ของธรรมไม่ใช่เรา ขออนุโมทนาครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ..... ประพฤติธรรม [สาเลยยกสูตร]
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เข้าใจครับ
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตครับ
ให้ทาน รักษาศีล เป็นเหตุให้เกิดในสุคติภูมิ เป็นมนุษย์ หรือ เป็นเทวดา
การอบรมจิตให้ผ่องใส (อริยมรรคมีองค์แปด) เป็นเหตุของการดับทุกข์ทั้งหลายค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่ยังไม่มีปัญญาถึงขั้นที่จะดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ย่อมมีการเกิดการตายอยู่ร่ำไป ตายแล้วก็ต้องเกิด และเกิดทันทีด้วย (สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่) การเกิดอีกนั้น ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการได้เกิดมาเป็นมนุษย์เท่านั้น เกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ก็ได้ เกิดเป็นพรหมบุคคลในพรหมโลกก็ได้ หรือ เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิก็ได้ ขึ้นอยู่กับกรรมเป็นสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตราบใดที่ยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นที่จะสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ ยังต้องเกิดอีกในภพภูมิต่างๆ อย่างแน่นอน ยังไม่พ้นจากสังสารวัฏฏ์ไปได้ แม้บุคคลที่ได้บรรลุคุณธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคลแล้ว ท่านก็ยังต้องเกิดอีก แต่เกิดไม่เกิน ๗ ชาติและเกิดเฉพาะในสุคติภูมิเท่านั้น เพราะเหตุว่าพระอริยบุคคลจะไม่ไปเกิดในอบายภูมิ แต่ปุถุชนผู้หนาแน่นไปด้วยกิเลส เต็มไปด้วยกิเลส มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น กิเลสเหล่านี้ยังดับไม่ได้และยังไม่ได้เบาบางลงไปเลย ถึงอย่างไรก็ต้องได้เกิดอีก ยังต้องเดินทางต่อไปในสังสารวัฏฏ์ทั้งในสุคติภูมิและอบายภูมิอีกอย่างนับชาติไม่ถ้วน เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ กับการที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ควรที่จะได้พิจารณาว่า ชาตินี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมทุกประการ ชาติหน้าอาจจะไปเกิดในอบายภูมิก็ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้น ซึ่งจะประมาทในชีวิตไม่ได้เลย เพราะถ้าหากอาศัยความประมาทเพียงนิดเดียว อาจจะนำพาเราไปสู่อบายภูมิ ซึ่งเป็นภูมิที่ปราศจากความเจริญในกุศลธรรม หมดโอกาสที่จะได้เจริญกุศลยิ่งขึ้น ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น ด้วยเวลาเท่าที่ยังเหลืออยู่ในโลกนี้ จึงควรเป็นไปเพื่อการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปตามลำดับ และเป็นผู้ไม่ละประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ ต่อไป เพราะสิ่งที่จะเป็นที่พึ่งจริงๆ สำหรับทุกชีวิต ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง วัตถุ หรือ บุคคลรอบข้าง แต่ เป็นกุศลธรรม เท่านั้น. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตกับทุกท่านครับ
ขอกราบอนุโมทนาทุกท่านค่ะ
การเกิดน่ากลัวจังค่ะ เราก็ยังคงต้องเกิดต่อไป ยังไม่พ้น
จะเกิดในภูมิมนุษย์หรือภูมิไหน
ขอให้ได้ฟังธรรมตามปรารถนา
แม้ได้เกิดเป็นคนล้นโลกา
แต่ไม่ฟังเทศนา ก็ป่วยการ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
การได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ถ้าสมมติว่า มหาปฐพีอันใหญ่หลวงนี้มีน้ำท่วมถึงเป็นอันเดียวกันทั้งหมด; บุรุษคนหนึ่ง ทิ้งแอก
(ไม้ไผ่?) ซึ่งมีรูเจาะได้เพียงรูเดียว ลงไปในน้ำนั้น; ลมตะวันออกพัดให้ลอยไปทางทิศตะวันตก, ลมตะวันตก
พัดให้ลอยไปทางทิศตะวันออก, ลมทิศเหนือพัดให้ลอยไปทางทิศใต้, ลมทิศใต้พัดให้ลอยไปทางทิศเหนือ,
อยู่ดังนี้ในน้ำนั้น มีเต่าตัวหนึ่ง ตาบอด ล่วงไปร้อยๆ ปี มันจะผุดขึ้นมาครั้งหนึ่งๆ
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : จะเป็นไปได้ไหม ที่เต่าตาบอด ร้อยปีจึงจะผุด
ขึ้นสักครั้งหนึ่ง จะพึงยื่นคอเข้าไปในรูซึ่งมีอยู่เพียงรูเดียวในแอกนั้น?
“ข้อนี้ยากที่จะเป็นไปได้ พระเจ้าข้า ! ที่เต่าตาบอดนั้น ร้อยปี
ผุดขึ้นเพียงครั้งเดียว จะพึงยื่นคอเข้าไปในรูซึ่งมีอยู่เพียงรูเดียวในแอกนั้น”
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! ยากที่จะเป็นไปได้ ฉันเดียวกันที่ใครๆ จะพึงได้ความเป็นมนุษย์; ยากที่จะเป็นไปได้
ฉันเดียวกัน ที่ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ จะเกิดขึ้นในโลก; ยากที่จะเป็นไปได้ ฉันเดียวกัน ที่ธรรมวินัย
อันตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองไปทั่วโลก
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! แต่ว่า บัดนี้ ความเป็นมนุษย์ ก็ได้แล้ว;
ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะก็บังเกิดขึ้นในโลกแล้ว;
และธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ก็รุ่งเรืองไปทั่วโลกแล้ว
ภิกษุ ทั้งหลาย. ! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้พวกเธอพึงกระทำโยคกรรม เพื่อให้รู้ว่า
“นี้ ทุกข์;
นี้ เหตุให้เกิดทุกข์;
นี้ความดับแห่งทุกข์;
นี้ หนทางให้ถึงความดับแห่งทุกข์”
ดังนี้ เถิด.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๘/๑๗๔๔.
จากคำตอบจากท่านหลายๆ ท่าน และข้อความที่ 11 ทำให้มองได้ว่าการจะเกิดเป็น
มนุษย์นั้นแสนยากจริงๆ นั้นก็หมายความว่าจะทำบุญที่จำเพาะเจาะจงให้เกิดเป็นมนุษย์
นั้นไม่มี พระพุทธองจึงกล่าวว่าการได้เกิดเป็นมนุษย์แสนยากในชาติต่อไปที่เรายังต้อง
เกิดอยู่
1. แต่ก็นับว่าโชคดีที่ชาตินี้เราได้เกิดเป็นมนุษย์
2. ก็นับว่าโชคดีที่ชาตินี้เราได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา
3. ก็นับว่าโชคดีที่ชาตินี้เราได้เกิดเป็นมนุษย์ ที่ได้รับฟังพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้า
4. แต่ก็จะนับว่าโชคดีหรือไม่ถ้าจะทำมรรคให้เกิดขึ้นกับเราได้
เรานั้นนับว่าเป็นมนุษย์ที่โชคดีมาทั้ง 3 ข้อ ถ้าหากทำข้อ 4 ให้เกิดขึ้นไม่ได้เราคงต้อง
ไปเริ่มต้นที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ที่แสนยากอีก แม้ 3 ข้อข้างต้นที่เราได้พบกับความโชค
ดีมาแล้วก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่อีก ที่แสนยากอีก
ลุงหมาน สรุปคมดีจังเลยครับ
เรานั้นนับว่าเป็นมนุษย์ที่โชคดีมาทั้ง 3 ข้อ ถ้าหากทำข้อ 4 ให้เกิดขึ้นไม่ได้เราคง
ต้องไปเริ่มต้นที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ที่แสนยากอีก แม้ 3 ข้อข้างต้นที่เราได้พบกับความ
โชคดีมาแล้วก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่อีก ที่แสนยากอีก
เกิดมาเป็นมนุษย์ชาตินี้มีโอกาสดีนักแล้ว อย่าปล่อยให้โอกาสดีนี้ผ่านเลยไปเปล่าๆ
ขอให้มีกำลังใจทำที่สุดแห่งทุกข์ให้สำเร็จโดยทั่วกัน เทอญ
ลุงหมาน สรุปคมดีจังเลยครับ
เรานั้นนับว่าเป็นมนุษย์ที่โชคดีมาทั้ง 3 ข้อ ถ้าหากทำข้อ 4 ให้เกิดขึ้นไม่ได้เราคง
ต้องไปเริ่มต้นที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ที่แสนยากอีก แม้ 3 ข้อข้างต้นที่เราได้พบกับความ
โชคดีมาแล้วก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่อีก ที่แสนยากอีก
เกิดมาเป็นมนุษย์ชาตินี้มีโอกาสดีนักแล้ว อย่าปล่อยให้โอกาสดีนี้ผ่านเลยไปเปล่าๆ
ขอให้มีกำลังใจทำที่สุดแห่งทุกข์ให้สำเร็จโดยทั่วกัน เทอญ
โลกในจักรวาลอื่นๆ มีมากมายนับไม่ถ้วน เป็นโลกที่ไม่มีพระพุทธเจ้าไปบังเกิดขึ้นเลย
แม้แต่พระพุทธเจ้าในอดีต... ก็นับได้ว่าเราก็ได้เกิดบนโลกอันเป็นมงคล..... ก็นับว่าเป็น
ความโชคดีอีก 1 ข้อ ที่ไม่ไปเกิดในโลกที่จักรวาลอื่น...จะได้เกิดบนโลกใบนี้ก็แสนยาก
บุคคลที่เกิดมาในโลกใบนี้ก็หาใช่ว่าจะโชคดีทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไว้ เพราะมันแสนยาก
บุคคลที่เกิดมาในโลกใบนี้แม้จะโชคดีทั้ง 3 ข้อแล้ว แต่ว่าทำให้มรรคเกิดขึ้นไม่ได้
ก็เท่ากับยังประมาทอยู่ (ก็นึกสงสารตัวเองเหมือนกัน) ครับท่านผู้การ
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ
สัตว์ที่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์มีน้อย [นขสิขสูตร]
ขออนุโมทนาค่ะ