คนพาล มี 2 จำพวก
โดย wannee.s  24 พ.ย. 2550
หัวข้อหมายเลข 5655

พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 345

พาลวรรคที่ ๓

สูตรที่ ๑

ว่าด้วยคนพาล ๒ จำพวก

[๒๗๖] ๒๑. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาล ๒ จำพวก ๒จำพวก

เป็นไฉน คือ คนที่ไม้เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ๑ คนที่ไม่รับรอง

ตามธรรม เมื่อผู้อื่นแสดงโทษ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาล ๒

จำพวกนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัณฑิต ๒ จำพวก ๒ จำพวกเป็น

ไฉน คือ คนที่เห็นโทษโดยความเป็นโทษ ๑ คนที่รับรองตามธรรม

เมื่อผู้อื่นแสดงโทษ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัณฑิต ๒ จำพวกนี้แล.

จบสูตรที่ ๑



ความคิดเห็น 1    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 24 พ.ย. 2550

พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 345

อรรถกถาสูตรที่ ๑

พาลวรรคที่ ๓ สูตรที่ ๑ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า อจฺจย อจฺจยโต น ปสฺสติ ความว่า ทำผิดแล้ว ไม่เห็น

ความผิดของตนว่า เราทำผิด ได้แก่ ไม่กล่าวว่า ข้าพเจ้าทำผิดแล้ว

นำทัณฑกรรมมาขอขมาโทษ. บทว่า อจฺจย เทเสนฺตสฺส ความว่า

เมื่อเขากล่าวอย่างนี้แล้วนำทัณฑกรรมมาขอขมาโทษ. บทว่า ยถาธมฺม

น ปฏิคฺคณฺหาติ ความว่า เมื่อเขากล่าวว่า ข้าพเจ้าจักไม่กระทำอย่างนี้

อีก ขอท่านโปรดยกโทษแก่ข้าพเจ้า ดังนี้ ก็ไม่ยอมรับการขอขมานี้ตาม

ธรรม คือตามสมควร คือไม่กล่าวว่า จำเดิมแต่นี้ ท่านอย่าได้ทำอย่างนี้

อีก เรายกโทษแก่ท่าน ดังนี้. ธรรมฝ่ายขาวพึงทราบโดยนัยตรงกันข้าม

กับที่กล่าวแล้ว.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๑


ความคิดเห็น 2    โดย แช่มชื่น  วันที่ 24 พ.ย. 2550

ถ้าโดยปรมัตถธรรมแล้ว ต้องเป็นอกุศลธรรมที่ก่อความพาลให้เกิดขึ้นในขันธ์ ๕ นั้นครับซึ่งเราจะเห็นความวิจิตรของจิต และความแยบยลของอกุศลธรรมจริงๆ เมื่อขณะมานั้นมาถึง แล้วสติปัฏฐานเกิด ระลึกไปในความพาลของโทสมูลจิตตามความเป็นจริงครับ ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย orawan.c  วันที่ 25 พ.ย. 2550

เชิญอ่านเพิ่มเติมได้ที่----การไม่คบคนพาล การคบบัณฑิต เป็นอุดมมงคล


ความคิดเห็น 4    โดย Komsan  วันที่ 25 พ.ย. 2550
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 5    โดย suwit02  วันที่ 26 ธ.ค. 2551

สาธุ