กรรมและผลของกรรมเป็นไปตามเหตุและปัจจัย ไม่มีใครเป็นผู้กำหนดแต่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ความจริงคือความเป็นไปของกรรมและผลของกรรม
พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ทรงตรัสรู้เรื่องเดียวกันหรือต่างกันครับ
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้เรื่องเดียวกัน ไม่ต่างกันคือ สิ่งที่เป็นความจริงทั้งหมด เช่น อริยสัจจธรรม ๔ ปรมัตถธรรม ๔ ปฏิจจสมุปบาท เป็นต้น
กรรมได้แก่เจตนา เจตสิก ถ้าเราทำกรรมดี ก็จะได้รับผลคือกุศลวิบากที่ดี ตรงข้าม ถ้าเราทำกรรมไม่ดี ก็จะได้รับผลคือ อกุศลวิบากที่ไม่ดี ดังนั้น เราควรเจิรญกุศลทุกอย่างและทุกครั้งที่มีโอกาสทำความดี เพราะเป็นนาทีทองชองชีวิตที่เกิดมาได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ก่อนตายนะค่ะ
กรรม เป็น เจตนาเจตสิก ซึ่งเป็นปรมัตถธรรม และมีลักษณะที่เป็นอนัตตาจึงไม่มีใครสามารถกำหนดได้ ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัย แม้แต่พระผู้มีพระภาคก็ยังไม่สามารถกำหนดได้ ท่านเพียงแต่มีพระญาณหยั่งรู้กรรม
ของสัตวโลก