ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สรุปสาระสำคัญของการสนทนาธรรม
ที่บ้านธัมมะ ลำพูน
วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐
____________________________________
~ ทุกวันไม่เคยปราศจากธรรมเลย ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง มีจริงในขณะนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรมจนกว่าจะได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง
~ ความเข้าใจที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เจริญขึ้น ต่างหาก ทำหน้าที่ละความไม่รู้
~ ธรรมดา คือ ความเป็นไปของธรรม ไม่ใช่เรา
~ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง แต่ละหนึ่ง เกิดแล้วดับ จึงเป็นเราไม่ได้ เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ได้
~ มีปัจจัยให้เห็นเกิด เห็นก็เกิด โดยไม่มีใครทำให้เกิดได้เลย
~ ความสุขเกิดขึ้น ความทุกข์เกิดขึ้น ได้ยินเกิดขึ้น ใครจะไม่ให้เป็นไปได้ไหม? ไม่ได้ เพราะเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย
~ ถ้าไม่ฟังพระธรรม ไม่มีทางที่จะเข้าใจความจริงได้เลย เพราะฉะนั้น จึงไม่ขาดการฟังพระธรรม
~ เดี๋ยวนี้ไม่รู้ความจริง จึงต้องเป็นผู้ตรงที่จะเห็นประโยชน์ของการได้ฟังพระธรรม ฟังเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริง เพื่อจะได้เข้าใจความจริง
~ สิ่งอื่นใดก็ไม่มีค่าเท่ากับความเข้าใจถูกเห็นถูก เพราะเหตุว่าทุกคนต้องจากโลกนี้ไปแน่นอน อาจจะเป็นเดี๋ยวนี้ก็ได้ เย็นนี้ก็ได้ แต่สิ่งที่มี คือ มีความเข้าใจถูก จะค่อยๆ สะสมสืบต่อไป ก็มีโอกาสที่จะได้ยินได้ฟังอีก เพราะเหตุว่า คนที่ไม่มีโอกาสได้ฟัง มีมาก แต่คนที่มีโอกาสได้ฟัง มีน้อย ตามการสะสม
~ เวลาโกรธเกิดขึ้น ไม่ใช่เราที่โกรธ แต่เป็นเจตสิก (คือ โทสเจตสิก) เกิดขึ้นกับจิต ทำให้เป็นไปอย่างนั้น
~ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริง เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย เมื่อเกิดแล้วก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา
~ ผู้ที่ทรงเป็นกัลยาณมิตรสูงสุด ประเสริฐที่สุด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
~ กัลยาณมิตร คือ ผู้ที่หวังดี ให้ความจริง ไม่ให้สิ่งที่ไม่จริง เพราะฉะนั้น การสนทนาธรรม ความเป็นมิตร ก็คือ ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่ร่วมสนทนาด้วย
~ กรรม คือ การกระทำ เป็นเราหรือเปล่า? กรรม ไม่ใช่เรา
~ ฟังพระธรรมเข้าใจ ขณะนั้นเป็นกุศลกรรม
~ สติเป็นเจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดกับจิต) ที่ดีงาม เกิดกับจิตที่ดีงาม ไม่ให้ทุกข์ ไม่ให้โทษใดๆ เลยแม้แต่น้อย
~ ทุกคำที่ได้ฟัง มาจากพระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพระเจ้า ที่ได้ทรงตรัสรู้แล้วทรงแสดงความจริงให้สัตว์โลกได้เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง
~ การฟังพระธรรมเป็นหนทางที่จะทำให้เข้าใจว่าไม่ใช่เรา มั่นคงขึ้น มั่นคงในการฟัง และรู้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งใดเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะปัญญา รู้ ไม่ใช่เรารู้ ถ้าอวิชชา (ความไม่รู้) ก็เห็นผิดเป็นถูก แต่ถ้าเป็นปัญญา ก็เห็นถูกตรงตามความเป็นจริง ว่า ผิดก็ต้องผิด ถูกก็ต้องถูก แล้วก็ไม่ใช่เราด้วย
~ ทางหลง มีมาก เพราะความไม่รู้ มีมาก และความอยาก ก็มีมาก
~ ไม่รู้ว่า ขณะนี้เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ขณะที่ไม่รู้ก็สะสมความไม่รู้มากขึ้น
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ทำให้หลงผิด
~ ความเข้าใจ มีกำลังเมื่อไหร่ ก็สามารถดับกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) ได้เมื่อนั้น
~ จะยากเพียงใดกับการฝืนกระแสของโลกซึ่งเต็มไปด้วยความไม่รู้และความติดข้อง มาสู่การละความติดข้องในสิ่งที่ไม่มี แต่หลงเข้าใจว่ามี เพราะความรู้ (ปัญญา) ไม่ใช่เพราะเรา
~ หนทางเดียว คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาค่อยๆ เข้าใจขึ้น ที่จะละคลายความไม่รู้และความติดข้อง หนทางเดียวจริงๆ คือ หนทางของปัญญา
~ ขณะนี้เป็นธรรมหรือเป็นเรา? เป็นธรรม, มั่นคงแค่ไหน?
~ จะไปทำอะไรที่ไหน ๗ วัน ๘ วัน แล้วจะรู้ความจริงของสภาพธรรม เป็นไปไม่ได้เลย
~ ถ้าเข้าใจว่า พระพุทธศาสนา ง่าย ไม่ต้องศึกษา ไปปฏิบัติเลย ถูกหรือผิด? ผิด
~ ปัญญาค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย จนกว่าจะเจริญขึ้น
~ ความเข้าใจธรรมจากการได้ยินได้ฟังแต่ละครั้งทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆ เจริญขึ้น ท่ามกลางอกุศล
~ เป็นผู้ไม่ประมาท เพราะเห็นประโยชน์สูงสุดที่เป็นรัตนะอันประเสริฐ คือ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สามารถทำให้จากที่ไม่รู้อะไรทั้งสิ้นเหมือนคนตาบอด ค่อยๆ มีแสงสว่างปรากฏที่พอจะเห็นบ้าง แต่ปัญญาก็ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น
~ จิตขณะหนึ่งเกิดแล้วดับไป แล้วจะเป็นเราได้อย่างไร
~ ทุกอย่างที่เกิดแล้วดับไป ควรหรือที่จะยังติดข้องยินดีอยู่ เพราะไม่มีต่างหาก แต่หลงว่ายังมี
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เป็นไปเพื่อละความไม่รู้ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอกุศลต่างๆ รวมทั้งความติดข้องด้วย.
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เป็นข้อความที่มีคุณค่ามากค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณท่านสุจินต์ท่านอาจารย์ดวงเดือนท่านอาจารย์คำปั่นและท่านอาจารย์วิทยากรและท่านสมาชิกชมรมบ้านธัมมะทุกท่านในความเมตตาอนุเคราะห์เกื้อกูลพระธรรมที่ให้ประโยชย์อย่างสูงที่สุดในสังสารวัฏฏ์ เป็นบุญมากเมื่อได้ฟังได้อ่านแล้วเข้าใจพระธรรม
ขออุโมทนาในกุศลของทุกท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ