ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าไม่ละเอียด จะไม่รู้จักธรรมะ

กว่าเราจะรู้ความหมายของ"ละ" ไม่ใช่เราด้วย เพราะฉะนั้นความเป็นเราเท่านั้นที่ครอบคลุมหมดทุกอย่าง ฟังให้เข้าใจในความลึกซึ้ง ... ไม่ได้ให้ไปทำอะไร

ปัญญาเข้าใจถูก ตอนนี้มีปัญญาขั้นฟัง แต่ยังไม่มั่นคง ยังไม่รอบรู้ ฟังไปเถอะแล้วจะรู้ว่ายังไงจะมั่นคง ... มั่นคงคือเข้าใจ ... กว่าจะปรากฏดีคือปฏิบัติไม่ใช่ปริยัติ

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอย่างไร? ต้องละเอียดทุกคำ คิดจะไปประพฤติปฏิบัติตามคำที่ทรงสอน ... ไม่มีทาง!!!

เป็นธรรมะ พูดได้แต่ไม่รู้จัก ต้องเข้าใจธรรมะเท่านั้น นี่ข้ามไปหมด จะไปปฏิบัติคือการไม่รู้จักพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นเราจะทำทุกอย่างหมดเว้นเข้าใจธรรมะ!!! ฟังเผินเหมือนเรารู้จักธรรมะ เราข้ามตรงนี้ ตรงที่ตัวธรรมะเรายังไม่เข้าใจ มีปัญญาและไม่มีปัญญาก็ต่างกันอยู่แล้ว แต่ปัญญาแค่ไหนและมีกำลังแค่ไหน?

คิดว่าเรารู้จักธรรมะ รู้จักแค่ไหน?เพราะเดี๋ยวนี้เป็นธรรมะ เป็นเครื่องวัดว่าเรารู้จักธรรมะแค่ไหน ต้องตรงไปเรื่อยๆ ตรงต่อความลึกซึ้ง

ความเป็นตัวตนคอยเข้ามาขวางเงียบๆ โดยเราไม่รู้เลยว่าทำไมฟังมาตั้งนาน ตอบได้หมด คล่องหมด แต่มันไม่ถึงตัวธรรมะ ... มันก็เท่านี้ ... เท่าที่เราจำได้ ตอบคล่อง เท่านี้จริงๆ!! เพราะความเข้าใจในธรรมะของเรายังไม่พอ!!! ความเข้าใจว่าเป็นธรรมะยังไม่พอ!!! อันนี้แหละความลึกซึ้งที่ทำให้ละความติดข้องต้องการจะรู้ ... จะทำ ... จะเป็นอย่างนั้น ... ถ้าไม่รู้ตรงนี้ละได้ไหม? ... มันก็จะทำอยู่ร่ำไป ... นี่มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะเห็น ที่จะละ เห็นไหมไอ้ตัวละนี่มันยากเหลือเกิน เพราะต้องเป็นความเข้าใจที่ละเอียดและลึกซึ้งและมีกำลังด้วย

ต้องฟังต่อไปจนกว่าจะเข้าใจจริงๆ

และถ้าฟังต่อไปอีกแสนชาติ แล้วเพิ่มความเข้าใจตรงนี้อีกนิดหนึ่งนี่ถูกไหม? ใครจะรู้? มันไม่ใช่พรวดพราดมา เพราะมันลึกชนิดว่าติดมาไม่รู้กี่แสนโกฏิกัปป์ เพราะฉะนั้นฟังแค่นี้มันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะให้รู้ว่าไตร่ตรอง คิดรอบคอบ ในสิ่งที่ได้ฟัง ไม่ใช่ข้ามแล้วก็รีบร้อนไปทำอะไร ตัวรีบร้อนนี่มีเสมอ ความต้องการผลักดันไปตลอด ฟังแล้วคิดจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ... ไม่ต้องทำหรอก ... มันมีแล้วแต่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นรู้นี่แหละจะได้รู้ว่ามันเกิดแล้ว เป็นธรรมะตัวจริง ไม่ใช่เป็นแต่เพียงชื่อ

ส่วนใหญ่ฟังแล้วจะคิดเองเรื่องตัวเรา แต่ฟังแล้วคิดธรรมะ ธรรมะลึกซึ้งจริงๆ ได้ยินแล้วทั้งๆ ที่เดี๋ยวนี้มี ไม่ใช่ไม่มี ก็ยังไม่รู้ แล้วอะไรปิดกั้น!! แค่ได้ยิน แต่ว่าเดี๋ยวนี้กระทบแข็งก็ไม่เห็นว่าเป็นธรรมะ

ทุกอย่างเป็นธรรมะทั้งหมด ... มั่นคง ว่ามันยังอีกแสนไกล นี่แหละเครื่องละความต้องการ!!! ตรงนี้แหละ ... อยู่ตรงนี้

เชิญชม

ณ กาลครั้งหนึ่ง “สนทนาธรรมที่ บ้าน ซ. พัฒนเวศม์” วันพุธที่ ๑๐ ม.ค. ๖๗ (ช่วงบ่าย)

🔴 youtu.be/TAJdzjB0mAg?si=4MS70bdmcxziC6Ry

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

มีแล้วไม่รู้ แล้วจะไปทำอะไร นอกจากเข้าใจสิ่งที่กำลังมี

ทรงแสดงพระธรรม 45 พรรษาว่าเดี๋ยวนี้มีอะไร กว่าจะเข้าใจได้ แม้แต่ธาตุรู้ยังไม่รู้เลย ได้ยินแต่ชื่อนามธรรม

มีแล้วก็ไม่รู้ ปรากฏแล้วก็ไม่รู้ ... นี่เป็นตัวยากที่ทำให้เราไม่เข้าใจ ... ถูกต้อง เพราะฉะนั้นจับตัวไม่รู้ได้แล้วใช่ไหม?? ว่ามันแค่ไหน ตลอดชีวิตเกิดมาไม่รู้หมดเลยจนตาย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม!!!

ความเข้าใจว่าไม่ใช่เราค่อยๆ สะสมทีละน้อย ต่อให้เป็นอะไรยังไงก็ไม่ใช่เรา จนกว่าทีละอัน ทีละอันจะปรากฏลักษณะให้รู้ว่าไม่ใช่เราเพราะอย่างนี้ ไม่ใช่เราเพราะจำ ไม่ใช่เราเพราะชอบ ไม่ใช่เราเพราะโกรธ ... โกรธเป็นโกรธจำเป็นจำ ชอบเป็นชอบ ต้องอย่างนั้น ... ตรงนั้น กว่าจะถึงตัวนี้ กำลังมีอย่างนี้ โลกอยู่ตรงนี้ทั้งหมด!!!

แนะนำหนังสือ ...

ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ เวลเนสซิตี้ ๕ ต.ค. ๒๕๖๐

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ