ดวงตาเห็นธรรม
เป็นคนชอบอ่านชาดกและพระสูตรมาตั้งแต่เด็ก เพราะรู้สึกสนุกสนานที่ได้ติดตามเรื่องราวของบุคคลต่างๆ ในครั้งอดีตที่มีคติสอนใจให้เห็นผลของกรรมดีและชั่ว และหลายครั้งที่พบข้อความว่า ท่านผู้ฟังในครั้งนั้นเกิดดวงตาเห็นธรรม ได้สอบถามผู้รู้ในตอนนั้นถึงความหมาย ก็ได้ทราบว่า ท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน เข้าใจเอาเองตามประสาเด็กๆ ว่า คงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์แบบ คือ ไม่ผิดศีล ไม่ขี้เมา ไม่โกหก ไม่โกรธ ไม่โลภ เหมือนคนทั่วๆ ไป แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมมากขึ้น ก็พบว่า พระโสดาบันนั้น เป็นผู้ละความเห็นผิดว่า เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ละการยึดถือข้อปฏิบัติที่ผิด และไม่มีความลังเลสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันนี้รู้ตามตำรา
เมื่อได้ฟังการบรรยายธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่มีความละเอียด ลึกซึ้งอย่างยิ่ง ก็ยิ่งเข้าใจความหมายของ “ดวงตาเห็นธรรม” มากขึ้นว่า คือ มีความเข้าใจอย่างมั่นคงพร้อมทั้งประจักษ์แจ้งด้วยว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาเกิดอีกเลย จึงไม่ต้องไปทำอะไร ปฏิบัติอะไร นอกจากระลึกรู้สภาพธรรมะที่เกิดปรากฏในขณะนี้ และไม่มีความลังเลสงสัยในคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในพระปัญญาคุณของพระองค์ ในพระมหากรุณาคุณที่ทรงบำเพ็ญพระบารมียาวนานเพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลกให้ประจักษ์ในสภาพธรรมที่ลึกซึ้งนี้ให้มีผู้รู้ตามพระองค์ และสืบทอดมาจนถึงพวกเราในยุคนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ “ดวงตาเห็นธรรม” คือ เห็น (รู้) ทุกอย่างตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมะเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรนอกจากนี้
กราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่กรุณานำพระธรรมคำสอนที่ท่านเข้าใจแล้ว มาพร่ำสอนบ่อยๆ เนืองๆ แล้วๆ เล่าๆ โดยไม่เบื่อหน่ายที่จะชี้แจงเหตุผลต่างๆ ว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ และเป็นอนัตตา ได้ฟังมานานเกือบ ๓๐ ปี จนผู้มีปัญญาน้อยสามารถเห็นเงาลางๆ ของคำสอนที่แสนจะลึกซึ้งได้บ้าง
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขณะใดที่ได้อ่านบทความของพี่แดงแต่ละครั้งจะได้รับประโยชน์ทุกครั้งค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ