แม้จะมีความเข้าใจในขั้นการฟังว่าสภาพธรรมะไม่ใช่เรา แต่ก็ยังมีความยึดถือในความเป็นเราอยู่ เพราะปัญญายังไม่มีกำลังถึงขั้นที่จะหมดความเป็นเราได้
จากการสนทนาเรื่องปฏิบัติธรรมที่ มศพ. ๙ ก.ค. ๖๐
ลืมว่า อาลัยในความเป็นเรา ยังต้องการความรู้สึกที่เป็นสุข ต้องการนั้นคืออาลัย ยังอยากมี ยังอยากเป็น ไม่ใช่ว่าอยากหมดหรือว่าหมดแล้วก็ไม่เป็นไร
จะกล่าวว่าไม่อาลัยเป็นไปไม่ได้ ... คิดเอง ที่สำคัญที่สุดคืออาลัยในความเป็นเรา ทุกข์ยากทนได้..เราใช่ไหม..ยังอาลัยอยู่ในความเป็นเรา เมื่อไหร่หมดความอาลัยในความเป็นเรา เมื่อนั้นก็เพราะได้รู้สภาพธรรมะตามความเป็นจริง
ตราบใดที่สภาพธรรมกำลังปรากฏและเรากล่าวถึงเรื่อยๆ บ่อยๆ ว่าสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา ยังอาลัยไหม!!! คิดว่าไม่อาลัยหรือ..ที่แท้ยังเต็มไปด้วยความอาลัย
แค่ได้ยินได้ฟังว่าทุกอย่างไม่เที่ยง พิจารณาก็จริง..จิตก็เกิดดับ..เจตสิกก็เกิดดับ..รูปก็เกิดดับ..แต่ก็ยังอาลัยในความเป็นเรา ฟังเท่าไหร่ก็ยังไม่สามารถละความเป็นเราได้
หลายคนประกาศตนว่าพร้อมที่จะจากโลกนี้ไป..ก็เรานั่นแหละพร้อม..ก็เรานั่นแหละจาก..มีความเป็นเราอยู่..ไม่ได้หมดความอาลัยในความเป็นเราเลย
ไม่พร้อมที่ลึกซึ้งก็คือไม่พร้อมที่จะจากความเป็นเรา ไม่พร้อมที่จะสละความเป็นเรา
เราพร้อมไม่ใช่ปัญญาพร้อม หมายความว่ายังไม่ได้ละความอาลัยในความเป็นเรา
กราบบูชาคุณท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอกราบอนุโมทนาครับ
จะกล่าวว่าไม่อาลัยเป็นไปไม่ได้...คิดเอง ที่สำคัญที่สุดคืออาลัยในความเป็นเรา ทุกข์ยากทนได้..เราใช่ไหม..ยังอาลัยอยู่ในความเป็นเรา เมื่อไหร่หมดความอาลัยในความเป็นเรา เมื่อนั้นก็เพราะได้รู้สภาพธรรมะตามความเป็นจริง
...อนุโมทนาค่ะ...
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนา ครับ.
กราบอนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ