จะละวิจิกิจฉาได้โดยวิธีใดบ้าง และช่วยอธิบายความหมายโดยละเอียดด้วยค่ะ
ข้อส่งสัยในธรรมนั้นๆ เป็นวิจิกิจฉาหรือไม่ค่ะ การครุ่นคิดพิจารณาธรรมมากๆ เนื่องจาก ยังไม่เข้าใจธรรมนั้น จะทำให้จิตเศร้าหมองหรือไม่ค่ะ
วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยในธรรม ๘ ประการ คือ
พุทฺเธ กงฺขติ สงสัยในพระพุทธเจ้า ๑
ธมฺเม กงฺขติ สงสัยในพระธรรม ๑
สงฺเฆ กงฺขติ สงสัยในพระสงฆ์ ๑
สิกฺขาย กงฺขติ สงสัยในสิกขา ๑
ปุพพนฺเต กงฺขติ สงสัยในขันธ์เป็นต้นที่เป็นอดีต ๑
อปรนฺเต กงฺขติ สงสัยในขันธ์เป็นต้นในอนาคต ๑
ปุพพนฺตาปรนฺเต กงฺขติ สงสัยในขันธ์ เป็นต้น ที่เป็นอดีตและอนาคต ๑
ปฏิจฺจสมุปฺปาเท กงฺขติ สงสัยในปฏิจจสมุปบาท ๑
ผู้ที่จะละวิจิกิจฉาได้ เป็นสมุทเฉทไม่เกิดอีกเลยต้องเป็นพระโสดาบันบุคคลปุถุชนยังละวิจิกิจฉาไม่ได้ เป็นสมุทเฉทละได้ชั่วขณะด้วยการฟังพระสัทธรรมเป็นต้น การคิดพิจารณาธรรมะ ที่ได้ยิน ได้ฟัง มาเพื่อการเข้าใจมากยิ่งขึ้นขณะนั้นจิตไม่เศร้าหมอง เพราะเป็นการพิจารณาด้วยกุศลจิต แต่ถ้าครุ่นคิดความความสงสัย หรือโดยไม่แยบคลาย ขณะนั้นจิตเป็นอกุศลจิตเศร้าหมอง
เชิญคลิกอ่านที่นี่...
เหตุละวิจิกิจฉา [มหาสติปัฏฐานสูตร]
วิจิกิจฉาพวกเรายังละไม่ได้ แต่ถ้าเราสงสัยเรื่องธรรมะและเราหมั่นสอบถามผู้รู้บ่อยๆ ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปัญญา ก็ต้องอบรมเจริญสติปัฏฐานจนกว่าจะเป็นพระโสดาบันค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขออนุโมทนาครับ